“ทนายสายหยุด” เผย “เวย์ ไทเทเนียม” เครียด ยันไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี 50 ล้าน
จากกรณีที่ “ทนายสายหยุด” เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งประสานให้ “เวย์ ไทเทเนียม” เข้ามาสอบปากคำ ทั้งนี้ “ทนายสายหยุด” ได้เผยว่า…
อ่านข่าวต่อ : ตร. เร่งสอบปากคำ “เวย์ ไทเทเนียม” ปมเอี่ยวเทรดหุ้น 50 ล้าน

วันนี้ (8 ธ.ค. ) นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ กล่าวถึงกระแสข่าวการประ สานเข้ามาพบพนักงานสอบสวนของ "นานา ไรบีนา" และ “นายปริญญา อินทชัย” หรือ "เวย์ ไทเทเนียม" ว่า พนักงานสอบสวนประสานให้ ”เวย์ ปริญญา” เข้ามาสอบปากคำ

ตำรวจแจ้งว่าจะมาสอบปากคำก่อน แต่ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าจะสอบเรื่องอะไร ไม่ได้บอกล่วงหน้าไว้ แต่คงเป็นประเด็นที่เป็นข่าวที่อ้างว่าชวนเพื่อนมาลงทุน 50 ล้านบาท ส่วนจะชี้แจงได้หรือไม่นั้นต้องดูที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถามก่อน

ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะถามอะไร เป็นเรื่องเดียวกับนานาหรือไม่ เพราะพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งรายละเอียด ตอนสอบปากคำเดี๋ยวจะแจ้งรายละเอียดว่ามีผู้กล่าวหาว่าทำอะไร และจะให้เราตอบว่าจริงหรือไม่จริงอย่างไร แต่เบื้องต้นยังไม่ได้บอกรายละเอียด แจ้งแค่ว่าให้มาพบวันนี้ในช่วงเช้า แต่ตนเองติดงาน ส่วนนายปริญญาก็เล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดขอนแก่น เพิ่งเดินทางกลับมา

ด้านเวย์กังวลอยู่แล้ว คนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องหา และมีแนวโน้มที่จะต้องโดนดำเนินคดี อาจจะต้องโดนไปฝากขัง ทุกคนกังวลทั้งหมด แต่ต้องดูว่าเป็นเรื่องอะไร ของเราเป็นระบบกล่าวหา ผิดไม่ผิดไม่รู้ ก็กล่าวหากันไปก่อน และก็ต้องแก้ตัวไป
ธุรกิจกระทบเยอะเลย ร้านตัดผม 42 สาขา ช่างเกือบ 100 คน เริ่มระส่ำระส่ายว่าธุรกิจจะไปต่ออย่างไร คนที่ไม่ได้ชอบทั้งคู่ ก็เริ่มไปด่าร้านตัดผม ซึ่งช่างตัดผมก็ได้รับผลกระทบ คนที่จะมาร่วมลงทุนใหม่ก็เริ่มปวดหัว แทนที่จะขาย หรือนำเงินไปใช้หนี้ได้ ก็เกิดผลกระทบในเรื่องธุรกิจ แต่ถ้าเรื่องธุรกิจอย่าไปด่าเลย มันไม่ใช่แค่เรื่องของสองคนนี้ทั้งหมด ยังมีหุ้นส่วนอื่นอีกเยอะ

เขาก็พยามดิ้นรนแก้ปัญหาให้ดีที่สุด จะเป็นหนี้ ก็ต้องใช้หนี้กันไป ก็น่าจะให้โอกาสเขาบ้าง ผิดไปแล้ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาหรือไม่ หรือจะสอบในฐานะพยาน หรือจะสอบเบื้องต้น และให้หาพยานหลักฐานมาชี้แจง ตนเองยังไม่ทราบว่าตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาเลยหรือไม่ หรือสอบเสร็จ พรุ่งนี้จะออกหมายจับอีกหรือไม่ ตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอย่างไร ก็ต้องถามเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน
ส่วนเป็นตัวเลข 50 ล้านบาท จริงหรือไม่ ตนเองไม่แน่ใจ เพราะตัวเลขมีโอนไปโอนมา ซึ่งตัวเลขยังไม่ขอยืนยัน เพราะตั้งแต่ตนเองรับงานมาจนถึงวันนี้ ไปคุยรายละเอียดจริง ๆ แค่ 3 ชั่วโมง และต่อมาก็วุ่นวายเรื่องประกันตัว เมื่อประกันตัวเสร็จ ก็ยังไม่ได้ไปคุยอีกเลย ว่าตัวเลขไปถึงไหนแล้ว รายละเอียดเป็นอย่างไร ถ้าเรื่องนี้มีการโอนเงินให้นายปริญญา 1 ล้านบาท และโอนคืนไปแล้วกว่า 1.5 ล้านบาท และตนเองไม่อยากไปเอ่ยชื่อ เพราะผู้เสียหายเขาไม่เปิดเผยตัว ซึ่งเป็นคนละคนกันกับกรณี 50 ล้านบาท ยืนยันว่า 50 ล้านบาท ไม่มีแน่นอนการโอนเงิน 50 ล้านบาทให้นายปริญญานั้นไม่มีแน่นอน มีโอนมาเพียงแค่ 1 ล้าน มีการโอนหลายครั้งส่วนเหตุผลว่าโอนค่าอะไรนั้น ต้องดูผู้กล่าวหาก่อน
เวย์สบายใจไม่ได้ เราไม่รู้ว่าตำรวจจะว่าอย่างไร และผู้กล่าวหาให้การอย่างไร ก็ต้องเตรียมตัว หากมีการฝากขัง หรือมีหมายจับ ก็ต้องเตรียมประกันตัว และสู้คดีเหมือนเดิม

ทนายหนักใจอยู่แล้ว เพราะคดีอาญา มีโทษจำคุก เราไม่อยากให้เขาสุ่มเสี่ยงในการรับโทษ อยากให้แก้ปัญหา หาเงินมาชำระหนี้ เจรจาเจ้าหนี้ แต่เรื่องเกิดใหม่ ๆ บางทีเจ้าหนี้กับลูกหนี้อาจจะยังโกรธแค้นกันอยู่ กว่าจะถึงศาลและตัดสินต้องใช้เวลาเป็นปี ทุกอย่างจะค่อย ๆ คลี่คลายไปและเป็นแบบนี้ในทุกๆ คดี”










