“ครูสลา” ตอบปมลิขสิทธิ์เพลง “โบว์รักสีดำ” ยันไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ แนะให้คุยกัน
จู่ๆ “นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ออกมาตัดพ้อ ว่าจะจ้องจับแต่ “ลำไย ไหทองคำ” หลังโดนฟ้องเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง “โบว์รักสีดำ” เพลงเดียว 20 ล้านบาท มีโอกาสเจอผู้ใหญ่ในวงการเพลง อย่าง “ครูสลา คุณวุฒิ” เลยสอบถามว่าตกลงใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวจริงกันแน่
อ่านข่าวต่อ : ครูสลาเชื่อว่าเรื่องลิขสิทธิ์จะมีทางออกสำหรับทุกฝ่าย

“ในรายละเอียดครูไม่ทราบ แต่ครูทราบเฉพาะคนแต่ง คนแต่งก็คือ อาจารย์สุพรรณ ชื่นชม ท่านก็เป็นศิลปินชาวบ้าน พี่นาง ศิริพร ก็ร้องเอาไว้ แต่ในรายละเอียดภาคกฎหมาย ครูไม่ทราบจริงๆ ต้องเริ่มจากที่ PGM เพียงแต่ว่าในตัวหนังสือที่เป็นสัญญาที่ตกลงกันไว้เป็นของใคร อันนั้นครูไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลยไม่ทราบ รู้แต่ว่าคนแต่งคือ อาจารย์สุพรรณ ชื่นชม คนร้องคือศิริพร อำไพพงษ์ คนทำดนตรีคือ พี่หนุ่ม ภูไท ส่วนรายละเอียดภาคกฎหมายไม่ทราบจริงๆ

ครูก็อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน คือถ้าคุยกัน เราคุยกันแบบศิลปิน สร้างงานศิลปะด้วยกัน มันน่าจะได้ดีด้วยกัน เราอาจจะต้องแยกออกระหว่างว่าในภาพมาตรฐานของสังคม มันจะต้องมีกฎ หมาย กติกา เราก็ต้องยอมรับตรงนั้น แต่ในขณะเดียวกันในทางรัฐศาสตร์ การแก้ปัญหาถ้าหากว่ามันเกิดขึ้น ครูก็อยากเห็นบรรยา กาศของความเป็นไทย ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หาทางออกที่ทุกคนอยู่ได้ในเงื่อนไขที่กฎหมายรองรับ

อันนี้ไม่งง ยุคสมัยที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับทุกคนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการเผชิญหน้ากับมัน การแก้ปัญหา มันต้องดูในทุกวัน แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่อยากให้มีคือ ให้เรารักกัน ให้คุยกันได้ อยากให้คุยกันได้ ไม่อยากเห็นบรรยากาศของการฟ้องร้อง อยากเห็นบรรยากาศของการพูดคุยกัน ถูกผิดก็มีตัวหนังสือรองรับอยู่ คนเป็นเจ้าของสิทธิ์ที่แท้จริงก็จะไม่ได้อะไรถ้าหากว่าอยู่ในบรรยากาศของความขัดแย้ง แต่ถ้าเราอยู่ในบรรยากาศของการถ้อยทีถ้อยอาศัย เหมือนเราเป็นเจ้าของบริษัทขายรถยนต์นั่นแหละ ถ้าเราจะยึดอย่างเดียว มันก็ยึดได้ในทางกฎหมาย แต่ว่าเราก็ไม่ได้อะไรเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทางเจ้าของสิทธิ์ที่แท้จริง อยากเห็นบรรยากาศการพูดคุยที่น่ารักแบบคนไทยเรา เข้าอกเข้าใจกัน ก็ได้ด้วยกัน ถ้าสดไม่ได้ ก็ผ่อนก็ได้ สู้ไปด้วยกัน

ยังไม่ได้คุยกัน แต่ครูก็อยากเห็นบรรยากาศที่ดีต่อกัน เพราะครั้งหนึ่งทุกคนก็เคยรักกันมาก่อน สัญญาไม่เกิดขึ้นถ้าไม่รักกันมาก่อน เพราะฉะนั้นถ้าวันหนึ่งเมื่อสัญญาทำให้เรามีเหตุต้องทะเลาะกัน ก็กลับไปทวนเรื่องเดิมว่าเรารักกันนะ เราถึงได้ทำสัญญา ครูคิดว่ามันคงไม่ใช่เคสเดียว มันจะมีอีกหลายเคสถ้าเป็นแบบนี้ แต่ถ้าหากว่าเคสโบว์รักสีดำ แก้ปัญหาโดยละม่อม โดยทุกฝ่ายโอเคทุกฝ่ายมีความสุข มันจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับอีกหลายๆ กรณีต่อไป ก็อยากให้สังคมได้ช่วยกันให้กำลังใจทุกฝ่ายให้คุยกันอย่างมีความเป็นไทย ด้วยหัวใจไทยที่รักกัน”












