“ฝ้าย พีรญา” เปิดใจทั้งน้ำตาเคลียร์ดราม่ายุติสัญญาค่ายเก่า - แยกทางคู่จิ้น
ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจเเคลียร์ประเด็นข้อสงสัยแบบหมดเปลือกครั้งแรกสำหรับ “ฝ้าย พีรญา มะลิซ้อน” กับการออกมาเป็นศิลปินอิสระ โดยงานนี้เจ้าตัวเปิดใจเรื่องราวทั้งหมดว่า
สำหรับวันนี้ที่ออกมาพูดหลังเรื่องเกิดขึ้นมาสักพักใหญ่ มันมีผลกระทบกับการทำงานและคนรอบข้างอย่างมาก ขอออกมาพูดในมุมตัวเอง สภาพจิตใจที่ไม่พร้อมและแตกสลาย วันนี้พร้อมแล้ว เข้มแข็งขึ้นแล้วที่จะพูด เรื่องแรกการทำงานที่ผ่านมา กับค่ายเก่าเราทำงานเต็มที่ จริงใจมากๆ พาทเนอร์ที่ทำงานด้วย เป็นคนที่ทำงานกันด้วยดีและราบรื่น ไม่มีปัญหาในการทำงาน มั่นใจว่าเป็นพาทเนอร์ที่ดีมาตลอด
.jpeg "ฝ้าย พีรญา")
เรื่องที่สองคือความสัมพันธ์ คือเป็นพาทเนอร์ที่ดีต่อกัน น้องเป็นคนที่น่ารักและคนสำคัญของเรา ไม่มีวันไหนที่มีปัญหาเเล้วไม่หันหน้าคุยกัน ไม่เคยมีปัญหาจนทำงานกันไม่ได้ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นคือช่วง 14 ก.พ. วันวาเลนไทน์ คุยกันว่าวางแผนจะไปไหนด้วยกันดี ทางเรามีการทักถามน้องไปตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่มีการตอบกลับ เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะปกติยังมีการพูดคุยกันตลอด พูดด้วยความสัตย์จริง
ส่วนเรื่องของซีรีส์ “4 Elements” ที่ว่าเกิดประเด็นขึ้นมา เพราะก่อนหน้าไม่รู้ว่าตนได้เล่นไหม เป็นการที่ค่ายกับผู้ใหญ่คุยกันตอนนั้น จนมีสายตรงจากผู้ใหญ่ว่าทำไมไม่เล่น เรางงว่าไม่จริงเราอยากเล่นจะตาย จนมีผู้ใหญ่ทักมาอีกว่าทำไมมีปัญหากันจนยกกอง เล่นด้วยกันไม่ได้เลยหรอ จะบอกว่าเราผ่านอะไรกันมาหลายสิ่งอย่าง ตนจะบอกว่าอยากเล่นมากๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรถึงไม่ได้เล่น
.jpeg "ฝ้าย พีรญา")
(ผู้ใหญ่ของค่าย สายโฟนอิน) ตอนนี้ 14.27 น. วันที่ 9 พ.ย. 68 ตอนที่ตัดสินลงทุนทำโปรเจ็กท์นี้ ก็คือมีคู่ฝ้ายจะได้มาร่วมงานกัน แต่ทางค่ายต้นสังกัดเก่าแจ้งว่าไม่มาสารถให้ทำงานกันด้วยได้ มันจะไม่ราบรื่น ซึ่งคู่พาทเนอร์บอกว่าไม่ได้มีการติดต่อมาเลย เลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะความเป็นจริงจะถอนตัว ต้องมีการได้ร่วมงานกันก่อน อันนี้เลยเป็นประเด็นที่น่าสงสัย เรื่องของการแยกคู่ เป็นประเด็นที่ทำคนเข้าใจผิดเยอะมาก ขอพูดวันนี้ว่าก่อนวันแฟนมีตคู่ในไทยหนึ่งวัน ทางค่ายให้เราและน้องไปนั่งคุยกับนักจิตวิทยา โดยให้โจทย์ว่ามองภาพออกไหมถ้าต้องเล่นกับคู่อื่น แต่เราเป็นนักแสดงเลยตอบว่า เราเป็นนักแสดงจะเล่นอะไรก็ต้องทำให้ได้ และเขาจะให้ไปคุยกับนักจิตวิทยาอีกครั้ง แต่เราไม่ไป เพราะคิดว่าไม่โอเค เรากำลังมีแฟนมีตจะให้เราแยกคู่ทำไม อันนี้คือคำถามที่อยากจะถามว่าทำไม (ร้องไห้)
.jpeg "ฝ้าย พีรญา")
(พี่ปิน) เป็นทำเพลง และดูแลเบื้องหลัง และอยู่กับน้องทั้งคู่มาตั้งแต่ต้น จะคอนเฟิร์มว่าน้องทั้งคู่ก็ทำงานด้วยได้ดี ถ้าพูดถึงความเป็นมืออาชีพน้องทำงานด้วยกันได้ ส่วนเหตุผลที่ฝ้ายสงสัยว่าจะได้เล่นซีรีส์ไหม คือเราก็ตกใจว่าทำไมมีคำถามนี้มาจากน้อง คือน้องบอกว่าอยากเล่นอยากทำงาน และคำที่สะเทือนใจมากคือฝ้ายบอกว่าตื่นมาจะได้ทำงานไหม ได้เล่นอีกไหม คิดว่าจุดประสงค์นึงคือการสื่อสารที่ผิดพลาด ยืนยันน้องไม่เคยทิ้งความฝัน ไม่เคยทิ้งคู่ หรือสิ่งต่างๆ ที่มีมาตลอด และมีข้อความมาถึงเยอะมาก ถามว่าฝ้ายเกลียดน้องที่เป็นพาทเนอร์จริงหรอ คือเรารู้สึกว่าเขายังมีความห่วง ถามถึงพาทเนอร์ตลอด จะบอกว่าน้องไม่ใช่คนที่คิดไม่ดีหรือเกลียดชังกับใครเลย
.jpeg "ฝ้าย พีรญา")
ประเด็นยุติสัญญา คือเริ่มจากทางค่ายเรียกคู่เกี่ยวกับการปรับสัญญา จากเดิมเป็นอันใหม่ โดยบอกว่าให้อ่านและตอบกลับตอนนั้นเลย แต่เราคิดว่ามันไม่ได้การเซ็นสัญญามันละเอียดอ่อนมาก ขอเวลาในการอ่านก่อน ทางเราได้แก้ไขและส่งกลับไปว่าเป็นไปตามที่ประสงค์ต่อกัน เลยถามอีกว่าแพลนในอนาคตเราจะมีงานอะไรเพิ่มอีกไหม แต่เขาไม่มีการพูดคุยเลย มีการทวงถามไปแต่ไม่มีคำตองกับมา เลยเป็นจุดที่ทำให้ยุติสัญญา เราทำอาชีพนักแสดงคือการทำงานเพื่อเลี้ยงชีพเรามาตลอด โดยคิดว่าถ้าเราตื่นมาแล้วไม่มีความสุขจะตื่นมาทำไม และเส้นทางที่เลือกได้คือทางของตัวเอง ไม่เคยคิดที่จะมาทำเองหรืออะไรทั้งนั้นด้วยความสัตย์จริง ขอบคุณหลายคนที่ยังซัพพอร์ตให้กำลังใจ ยอมรับว่าออกมาตอนแรกสภาพจิตใจแย่มาก วันนี้ยอมรับว่าไม่เคยคิดหรืออยากทำร้ายใคร ในวันที่ยุติสัญญากัน ทางค่ายยังบอกว่าขอให้ไปเจอในเส้นทางที่ดี ก็เลยคิดว่าเราจบกันด้วยดีแล้ว
สุดท้ายอยากขอบคุณทุกคนที่อยู่รอบข้าง ที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจมาตลอด และต่อจากนี้ไปถ้ายังเจอข้อความหรือสิ่งที่ทำให้เสียหาย หรือกระทบกับชื่อเสียง จะขอดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ไม่มีการยอมความทั้งสิ้น คือวันที่เขาเเถลงมันคือมุมของเขา แต่ในมุมของเราคือไม่ได้ทะเลาะกับใคร เราทำงานไม่ได้ตรงไหน หรือไปพูดกับคนอื่นว่าเราร่วมงานกันไม่ได้ เราคิดว่ามันร้ายแรงมากในฐานะนักแสดง
ฝ้ายกับน้องยังคงมองหน้ากันว่าเกิดอะไรขี้น ยังคุยกับน้องเลยว่าพี่อยู่ตรงนี้ และในตอนนั้นไม่คิดหาคำตอบแล้ว เพราะคิดว่ามันไม่โอเคที่ทำแบบนั้น เพราะวันรุ่งขึ้นเราต้องไปเจอแฟนๆ ที่มาคอยเรามันมีคำถามในหัว เเต่ไม่มีคำตอบ เลยไม่อยากไปคิดกันอีก กับน้องพาทเนอร์ยอมรับว่ามีทะเลาะมีงอนมีน้อยใจกันบ้าง แต่เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่เคยเอาสิ่งนั้นมาเป็นปัญหาในการทำงาน มีคุยกับน้องก่อนยกเลิกสัญญา แต่คืองงว่าทุกอย่างเกิดอะไรขึ้น ก็งงไปเหมือนกัน ได้คุยกับน้องล่าสุดคือ 9 ก.พ. เพราะไม่มีการได้ติดต่ออะไรกลับมาเลย แต่การเงียบมันน่าจะคือคำตอบแล้ว สุดท้ายไม่มีแอคชั่นกลับมาเลยไม่มีการติดต่อกัน ไม่กล้าที่จะทักไปหากันอีก เพราะไม่รู้ว่าเขาเจออะไรอยู่ เลยเป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่ จนถึงวันนี้ ฝ้ายยกเลิกสัญญาประมาณ สิ่งที่ตัดสินขอยุติคือมองไม่เห็นทางเลย ไม่เคยคิดจะทิ้งใคร เป็นการทำงานที่ยาก เพราะเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ เป็นการที่ไม่มีแพลนอะไรออกมาให้เลย สิ่งที่เราถามกับเขาคือ ถามว่าสิ่งที่ได้ยินมามันจริงใช่ไหม เกี่ยวกับโปรเจ็กท์ที่บอกว่าเราทะเลาะกันจนยกกองไม่สามารถทำงานกันได้ เลยถามว่ามันจริงไหม เขาเลยตอบว่าไปได้ยินจากใครมา เราเลยถามว่าพี่ไปพูดกับผู้ใหญ่คนไหนล่ะ สุดท้ายก็ยังไม่มีคำตอบชัดเจน เขาไม่มีการยืดไว้ เขาตั้งใจจะเซ็นให้วันนั้นด้วยซ้ำ บางเรื่องบางอย่างไม่มีการอธิบาย มีผลกับสภาพจิตใจ เราเจอมาคือพูดไม่ออกเลย ใช้เวลาในการรักษาจิตใจนานมาก เพราะถ้าพูดไปแล้วทำร้ายจิตใจหรือทำร้ายๆ แฟนคลับก็เลยไม่พูดดีกว่า ถามว่าโดนแอนตี้แฟนไหม คือเป็นการไม่เข้าใจมากกว่า ยังเคารพแฟนๆ ทุกคน เรื่องการโดนคุกคาม ก็มีตามไปสถานที่ต่างๆ ก็พยายามขอพื้นที่ส่วนตัว
ส่วนที่พาทเนอร์เก่าบอกว่ารักเราชอบเรา เลยเป็นปัญหาให้อึดอัดหรือเปล่า จะบอกว่าความชอบกันความรู้สึกดีๆ มันเป็นสิ่งที่พาทเนอร์มีต่อกัน ตนไม่ได้อึดอัดก็แค่เคยบอกว่ารู้สึกดีต่อกัน ถามว่าเสียดายไหม ที่คู่เราต้องจบลงในช่วงเวลาที่กำลังมีกระแส คือสงสารแฟนคลับมากกว่า ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ส่วนที่แฟนคลับพาทเนอร์มาโจมตี ก็คือจะบอกว่าวันนี้เลยต้องพูดออกไป การที่จะรักศิลปินที่ตัวเองรักมันไม่ผิด แต่อย่าทำร้ายใคร
ที่ปล่อยให้เวลามาผ่านมานาน ก็คือเราคิดเยอะมาก พยายามหลายครั้งที่จะพูด คือสภาพจิตใจมันไม่ได้จริงๆ แต่ใช้เวลาทำใจ วันนี้แข็งแรงแล้วเลยออกมาพูดดีกว่า และพูดไปด้วยความจริง ไม่ได้คิดทำร้ายใครด้วย ที่ออกมาเปิดบริษัทตัวเอง ไม่กดดันไม่คาดหวังอะไร คือตั้งใจจะทำผลงานให้ดีที่สุด ไม่อยากให้เอาเรื่องราวในอดีตมาตัดสิน เพราะในวันนี้เราก้าวเดินออกไปข้างหน้าแล้ว และตอนนี้กำลังเป็นผู้จัดซีรีส์เอง กับการจับมือกับพาทเนอร์บริษัทใหม่ ต้นปีหน้าได้เริ่มเห็นสปอยแน่นอน เป็นการร่วมกับทีมโปรดักชั่นใหม่ คือเป็นช่วงเวลาการคุยถึงรายละเอียดการทำงานในอนาคต
