“พลอย เฌอมาลย์” เปิดใจครั้งแรกหลังป่วยมะเร็งเต้านม ฉายแสง 25 ครั้ง จนหน้าอกไหม้
ออกมาเปิดใจครั้งแรก สำหรับนักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง “พลอย เฌอมาลย์” ที่ได้มาเล่าเรื่องราวชีวิตในช่วงที่หายไปให้ทุกคนได้ฟังในรายการ sisterhood โดยเธอได้เล่าให้ฟังว่าถึงเรื่องสุดช็อกว่า
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีมรสุมชีวิตเกิดขึ้นในชีวิตของพลอยในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้จัดการ หรือว่าเรื่องนั้น และเรื่องสุขภาพมันมาพร้อมกันในจังหวะเดียวกัน เหมือนโดนพายุซัดแบบไม่ทันตั้งตัว ไปตรวจร่างกายก็เจอว่าเป็นมะเร็งเต้านม ตอนแรกที่รู้พลอยช็อกมาก ถามหมอกลับไปด้วยว่า มันคือเรื่องจริงเหรอ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ครั้งแรกที่ตรวจสุขภาพประจำปี พบว่ามีก้อนเนื้อ แต่ตอนนั้นรูปร่างของมันดูไม่อันตราย และหมอให้ติดตามอาการไปเรื่อยๆ แต่พลอยไม่ไปตรวจสุขภาพปีครึ่ง เพราะเป็นคนกลัวเข็มมาก เป็นความดื้อของตัวเอง และพอมาตรวจอีกครั้ง ก้อนเนื้อมันโตแล้ว อีกทั้งพลอยยังคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแรงดี ทุกอย่างดูปกติดีไม่น่าจะเป็นอะไร จนไปตรวจสุขภาพอีกครั้งก็เลยเจอ ตอนนั้นช็อก และเพื่อนที่รู้เรื่องก็แนะนำให้พลอยไปรักษาอีกโรงพยาบาลหนึ่ง
พลอยตรวจพบ 2 ข้าง ข้างซ้ายเป็นมะเร็ง ระยะที่ 2 แต่ข้างขวามันเป็นหินปูน ชิ้นเนื้อปกติหลังจากที่คุณหมอเจาะเอาไปตรวจ ไม่มีมะเร็ง ผ่าตัดครั้งแรก เอาชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นสายพันธุ์อะไร พอตรวจละเอียดก็พบว่าเป็นสายพันธุ์ชนิดพิเศษ คุณหมอบอกว่าเป็นมะเร็ง Special Type มี ต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเต้านม สรุปคือพลอยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วย มันลามไปต่อมน้ำเหลือง ตอนนั้นสิ่งที่พลอยกังวล เริ่มเครียดมากๆ คุณหมอบอกว่าต้องไปลุ้นในห้องผ่าตัด ฉีดสีเข้าไปแล้วมันจะลามไปอวัยวะหรือเปล่า ต้องไปลุ้นกันตอนนั้น หลังจากที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง พลอยร้องไห้ คำว่ามะเร็งเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวและไม่อยากมีประสบการณ์อะไร ครั้งแรกพลอยกลัวมาก แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกลัว รู้เร็ว รักษาเร็ว เทคโนโลยีมีเยอะมาก พลอยยอมรับว่า เป็นคนที่ดูแลตัวเองมาอย่างดีตลอด ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นด้วยซ้ำว่าเป็นได้อย่างไร
แต่พอหลังจากที่ไปสืบมา ก็พบว่า คุณย่าทางคุณพ่อท่านเคยเป็น ก็น่าจะเป็นเรื่องของพันธุกรรม หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จครั้งแรก บริเวณหน้าอกด้วยการคว้านชิ้นเนื้อออกไป เพราะพลอยเลือกการรักษาแบบไม่ตัดออกไป พักฟื้นไม่ถึงเดือนก็ผ่าตัดครั้งที่ 2 เพราะตรวจชิ้นเนื้อและพบว่ามันลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง พลอยก็พักฟื้นอยู่พักใหญ่ พลอยต้องฉายแสง 25 ครั้ง หน้าอกไหม้ไปข้างหนึ่ง เจ็บมาก ซึ่งพลอยต้องทำ 5 วันต่อสัปดาห์ คุณหมอบอกว่า พลอยไม่ต้องใช้คีโมรักษา ให้รักษาโดยการฉายแสง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการรักษา หลังจากฉายแสงจบ พลอยต้องกินยาลดฮอร์โมนเอสโตรเจนและฉีดด้วย มีผลกระทบต่อเราเยอะ เพราะผู้หญิงฮอร์โมนเอสโตรเจนมันสำคัญมากๆ สำหรับผู้หญิง พลอยกินยามาปีครึ่งแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายค่อนข้างเยอะ ตอนนั้นผอมมาก เพราะยาส่วนหนึ่ง อารมณ์ของพลอยสวิงมากเพราะลดฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วงนั้นทรมานมาก ตอนนั้นน้ำหนักลดไป 13 กิโล ภายในเวลาเกือบๆ 3 เดือน เครียดทั้งตัว หัวใจ และสมอง มันหนักมากที่สุดในชีวิตแล้ว ในตอนนั้นยอมรับว่าตกอยู่ในสภาวะความเครียดหลายๆ อย่าง มี 3 เรื่องที่รุมเข้ามาในชีวิตทีเดียว พลอยรับเรื่องนี้ไม่ทัน
Cr. รายการ sisterhood