“อิงฟ้า” ให้กำลังใจ “ปอนด์-พิง” มั่นใจได้ดูหนังปีหน้าแน่ วอนช่วยกันตั้งชื่อเรื่อง
ก่อนหน้านี้เป็นประเด็นเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ “บุปผาราตรี” ที่ผู้กำกับ “ต้อม ยุทธเลิศ” เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท จากบริษัท Be On Cloud ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ หลังอีกฝ่ายเปิดตัวภาพยนตร์ชื่อ “บุปผา” ก่อนที่ “ปอนด์ กฤษดา” ซีอีโอ Be On Cloud ออกมาประกาศขอทบทวนชื่อเรื่อง พร้อมเดินหน้าฟ้องกลับเพื่อพิสูจน์ความจริง ล่าสุดเจอ “อิงฟ้า วราหะ” หนึ่งในนักแสดงเรื่องนี้ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า...
อ่านข่าวต่อ : “อิงฟ้า” ให้กำลังใจ “ปอนด์-พิง” ได้ดูหนังปีหน้า คนที่ได้ดูคุ้มแน่นอน...
“ได้แต่เป็นกำลังใจให้กับพี่ปอนด์ รวมถึงนักแสดงทุกคน คุยกันตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง ส่วนหลักเลยก็เป็นกำลังใจให้กับพี่ปอนด์ พี่พิง ให้มีกำลังใจเยอะๆ และผ่านมันไปได้ สุดท้ายแล้วหนูเชื่อว่าตัวเนื้อเรื่อง จะได้ฉายแน่นอน นักแสดงรักกันดีมาก ให้กำลังใจกันหลังบ้านตลอด มีช่วงแรกเลยที่แอบตกใจ เลยมีการคุยกับนักแสดง แล้วก็ทางพี่ปอนด์ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจะไม่ได้ฉายจริงไหม ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายังไงก็ได้ฉาย
ตอนแรกอ่านเนื้อเรื่องหนูยังงงอยู่เลยเพราะชื่อเรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย สุดท้ายเข้าใจแล้ว ที่แน่ๆ มีความสวยงาม และสนุก ความน่ากลัว คนที่ได้ดูคุ้มแน่นอน เพราะนักแสดงหลักก็คิวโหดมาก ทุกคนใส่สุดมากๆ หนูมองในแง่ดีไปเลย อย่างน้อยมีคนที่รอดูเรื่องนี้เยอะแน่ๆ ชอบตรงที่หลายคนและแฟนคลับของพวกเรา เพราะเป็นแฮชแท็ก หนังที่ไม่มีชื่อเรื่อง ทุกคนก็มาซัพพอร์ต ช่วยกันตั้งชื่อเรื่องใหม่ พยายามทำให้เป็นมู้ดเอเนอร์จี้บวกและให้กำลังใจกันและกัน หนูก็อยากได้ 30,000 มีแต่โพสต์เล่นๆ ผีหยุดยิ้มบ้าง หรือว่าพอเถอะผีพี่เหนื่อยแล้ว ก็อยากได้ 30,000 แต่ต้องมารอดูว่าใครจะได้ตำแหน่งนี้ไป ได้รางวัลไป กลายเป็นชาเลนจ์อีกโปรเจ็คท์หนึ่งที่ให้แฟนคลับได้มีส่วนร่วม มองเป็นในเรื่องที่ดีแล้วกัน
ทำงานกับพี่ปอนด์และพี่พิงดีมาก หนูรู้สึกว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ดีเลย มีความเป็นกันเองสูงมาก เป็นทั้งเพื่อนและพี่ ที่เราสามารถพูดและแชร์ได้ทุกเรื่อง และการทำงานเขาก็ปล่อยให้เราเล่นได้เต็มที่เลย ซื้อหรือไม่ซื้อเดี๋ยวว่ากัน เลยกลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้ทุกคนมีส่วนร่วมในการดีไซน์แต่ละฉากด้วย เขาบอกว่าสิ่งที่ทุกคนกังวลคือเรื่องของการฉาย พอเขาบอกว่าได้ฉายแน่ แล้วตัวเขาเองในเรื่องสัญญาความถูกต้อง รวมถึงเชื่อมั่นในทีม และตัวเนื้อเรื่องเราได้แสดงเอง มันก็ไม่ได้มีความสอดคล้องอะไรกับชื่อเรื่องขนาดนั้น เราเลยไม่รู้จะกังวลไปทำไม เชื่อมั่นในทีมเราว่าต้องได้ฉาย
ตอนนี้ปิดกล้องแล้วเรียบร้อย ปิดไปนานแล้ว ให้เวลากับเรื่องนี้หนึ่งเดือนเต็มเลย เทย์เลอร์ที่ออกมาผลตอบรับดีมาก แค่สั้นๆ เอง รู้เลยว่าทุกคนรอมาก ฝากหนังที่ไม่มีชื่อเรื่องด้วย คิดว่าน่าจะมาเร็วๆ นี้ แต่ที่แน่ๆ คือไม่มีใครเห็นหนูเล่นบทแบบนี้ รวมถึงพี่อาโป น้องฟรีน พี่เจษ เรื่องนี้สุดจริง เป็นหนังที่คนไทยไม่ควรพลาด ไม่ใช่แค่ตีแผ่คนไทยอย่างเดียว อยากจะให้ไประดับโลก อยากให้ต่างชาติดูและเข้าใจวัฒนธรรมของไทยด้วย”