“แจ๊ส” รับเหนื่อย! ตอบดราม่าลูกชาย “เจแปน” ให้แก้ปัญหาเอง ปล่อยวางเอาความสุขตัวเองดีกว่า

“แจ๊ส” รับเหนื่อย! ตอบดราม่าลูกชาย “เจแปน” ให้แก้ปัญหาเอง ปล่อยวางเอาความสุขตัวเองดีกว่า

0

“แจ๊ส” รับเหนื่อย! ตอบดราม่าลูกชาย “เจแปน” ให้แก้ปัญหาเอง ปล่อยวางเอาความสุขตัวเองดีกว่า

          ก่อนหน้านี้เป็นกระแสร้อนในโลกโซเชียลกับข่าวคราวของ “เจแปน J-Sad ลูกชายของนักร้องดัง “แจ๊ส สปุ๊กนิก” ปมแร็พดิสกันจนท้าทายกันผ่านโซเชียล ล่าสุดมีโอกาสเจอ “แจ๊ส สปุ๊กนิก” และ “แจง ปุณณาสา” เลยถามถึงเรื่องนี้

อ่านข่าวต่อ : "แจ๊ส" 12 ปีรัก "แจง" ให้ได้ทุกกอย่างยกเว้นเดือนกับดาว รับห่วงลูกไม่ห้ามเรื่องมีแฟนถ้ามีให้บอก

           “มันเป็นช่วงวัยของเขา มีอะไรที่ต้องสอนกัน แล้วเขาก็มีคำพูดอะไรของเขากลับมาในวัยของเขาอยู่ละ เราก็พยายามจะบอกแต่มันคือตัวของเขา ก็ผิดชอบชั่วดีเขาจะรู้เอง อันนี้ไม่ได้ใช้คำว่าเขาผิดหรือเขาถูกนะ แต่สุดท้ายแล้วเกิดมาเป็นมนุษย์ กว่าจะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หรือเขาจะเป็นผู้ใหญ่แล้วแหละ แต่สมองและสติของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งเราเป็นพ่อเป็นแม่ สอนก็อาจจะไม่ได้ตรงจริตเขา ใครสอนได้เราก็สอนใครฟังก็ฟังไม่ฟังก็ตามใจ แค่นั้นเอง อันนี้ไม่ได้ผลักภาระว่าจะมากระทบผมไม่ใช่ คือขอให้รู้ตรงนี้ว่าเขาก็โตแล้ว ผิดชอบชั่วดีให้มันเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ผมก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน

            มีคนหลายคนถาม ผมจะเป็นคนเงียบเรื่องครอบครัว เรื่องลูกมากๆ เลย บางทีไม่ลงไอจีลูกคนนี้ บางทีลงแล้วไม่แท็ก ให้รู้ว่าลูกอยู่ไหน ผมไม่อยากให้เขาเจออะไรที่ บางทีมันจะมีนะรู้ว่าเป็นลูกแจ๊ส มันอาจจะมีผลดีและอาจจะไม่มีผลดีที่เขาจะไปเจอใครมาหลอก ผมก็มีบางเรื่องที่ไม่อยากจะบอก ถึงเขาจะไปทำเรื่องเสียหายอะไรก็เขาต้องรู้เอง ผมอาจจะไม่ได้เป็นพ่อที่ที่ผ่านมาสตอรี่ชีวิตเรามันมีอะไรที่ผ่านมา จนวันนี้ดูแลทุกคนทั้งหมด ก็พูดกับแจงตลอด จะดูเป็นคนไม่ดีก็ได้นะ ทุกวันนี้ผมแค่จะหาเงินจุนเจือพวกคุณให้เต็มที่ที่สุด ผมจะรับผิดชอบงานของผมให้ดีที่สุด แต่ผมไม่มีเวลามาดูแลหัวจิตหัวใจใครมากขนาดนั้นแล้วนะ ผมขอเรื่องนี้ผมจะไม่ยุ่งกับใครในครอบครัว มีแค่เงินให้ ความอบอุ่นถ้าอยากมามาหากูที่บ้าน แม่ก็มาหานะ ใครอยากมามาที่บ้าน เพราะทุกวันนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว แจงเขาก็อยู่หลังบ้าน เขาอาจจะไม่ได้มายุ่ง เขาก็เหนื่อยมากพอแล้วจะไปเอาใจใครทุกคน

           แล้วก็อย่ามองผมเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ ผมรับผิดชอบครอบครัวตั้งแต่เดินด้วยขาตัวเองได้ ผมอาจจะไม่มีความอบอุ่นให้ แต่สิ่งที่มีให้คือผมทำงานและดูแลทุกคน มันมีความน้อยใจกันหมดแหละ นู่นนี่นั่น ทุกคนโหยหาตัวเราหมด อยากได้จากเราหมด แต่ถ้าใครทอนให้มาก็ขอบคุณ ใครไม่ทอนก็ไม่เป็นไร ยังไงคุณก็อยู่ในครอบ ครัวของผมอยู่ดี ผมไม่ไหวผมก็ปล่อยใครไหวก็อยู่แค่นั้นเอง มันง่าย จะพูดว่าเห็นแก่ตัวก็ได้นะ แต่ตอนนี้ผมเอาตัวเองก่อน

            ได้คุยกับลูกแต่เขาคงไม่อยากให้เรายุ่ง ไม่ได้มาพูดดิสเครดิตอะไรเขาเพราะว่าโตแล้ว เขามีเมีย เขาเริ่มจะมีลูกแล้ว แล้วผมกับเขาทะเลาะกันบ่อยเพราะว่าเราอยากให้เขาเป็นในสิ่งที่เราวาง อันนี้ไม่ได้ว่าเขานะ เขาก็ไม่ได้ผิด ผมอาจจะผิดก็ได้ที่ผมวาดเขาไว้ แต่ถ้าเขาเลือกทางเดินของเขาแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เขาเดิน ผมก็เคยสนับสนุนอะไรที่เราอยากสนับสนุน แต่ถ้ามันผิดในสายตาเขาว่า ทำไมไม่สนับสนุนเขาเลย เราอาจจะคิดว่ามันยังไม่เหมาะสมแต่เราอาจจะผิดในสายตาเขาก็แล้วแต่ หรือสังคมจะมองเราผิด ไม่รู้ แต่คำว่าลูกของผมไม่ได้แขวนไว้ในหัวผมตลอดนะว่ายังไงก็ลูก ถ้าเขาอยากอยู่กับเราก็อยู่ ถ้าไม่อยากอยู่ก็ไม่อยู่ ไม่ต้องมาตามง้ออะไรกันมากมายความรู้สึกของผมนะ

             ครอบครัวผมก็มีปัญหาเหมือนครอบครัวอื่น ก็ค่อยๆ แก้กันไป เขาโตแล้ว ผิดชอบชั่วดีก็อยู่ที่เขาแล้ว เขาไม่อยากให้เรายุ่งก็ไม่เป็น ไร ใครชื่นชอบเขาก็ฝากสนับสนุน อันไหนไม่ดีก็ติเตียน ในโซเชียลผมก็ยังโดนด่า เมียผมก็ยังโดนด่า เขาก็ต้องโดนด่า ทุกคนต้องโดนด่า ก็ไปต่อให้ได้ ถ้าผมผิดในสายตาเขาผมก็ขอโทษ แต่ผมหวังดี ผมไม่ได้หวังร้าย ให้เขามีชีวิตที่เจริญเติบโต สิ่งที่พ่อแม่อยากเห็นคืออยู่บนโลกใบนี้ให้ได้ อยู่กับคนอื่นนอกบ้านให้ได้ จะพูดเสมอว่าไปเก่งข้างนอก อย่ามาเก่งกับคนในบ้าน จะบอกลูกทุกคนตลอด เพราะมันมีความละเอียดอ่อน ผมก็ฝากเขาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกท่านด้วย สิ่งไหนที่ไม่ดีก็ทักติติงกันไป

           ทุกวันนี้ผมก็เหนื่อย เหนื่อยที่จะมาปกป้องความรู้สึกใครในครอบครัว ก็โตกันแล้ว ก็รู้ว่าจะดับเย็นในจิตใจได้อย่างไร ก็ใช้ชีวิตไปอุ้มครอบครัวกันไป เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ตกลงไปก็ปีนขึ้นมานั่งเรือกันใหม่ แต่ตอนนี้เราเป็นหัวเรือแต่อย่างที่บอก ผมกลัวว่าวันข้างหน้าผมจะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ ผมเอาความสุขตัวเองก่อนแล้วกัน แต่ครอบครัวกินอิ่มนอนหลับจบ แต่ผมตอนนี้เห็นแก่ตัว ก็เหนื่อยมามาก เอาความสุขตัวเองดีกว่า อยากซื้ออะไรก็ซื้อ เมียโอนเงินมาให้ก็ใช้ให้หมด เขาก็ดูแลครอบครัวอยู่แล้ว การเป็นคนๆ หนึ่งมันเหนื่อยมากๆ มีแต่คำว่า ช่างแม่ง ปล่อยเลย ทุกคนก็ต้องแก้ปัญหาเอง เหมือนเจแปนนั่นแหละ ก็ตามนั้น”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments