“โก้ ธีรศักดิ์” ต่อสู้ชีวิต LGBTQ+ เคยคิดสั้น ครอบครัวบูลลี่ หนีออกจากบ้าน

“โก้ ธีรศักดิ์” ต่อสู้ชีวิต LGBTQ+ เคยคิดสั้น ครอบครัวบูลลี่ หนีออกจากบ้าน

0

“โก้ ธีรศักดิ์” ต่อสู้ชีวิต LGBTQ+ เคยคิดสั้น ครอบครัวบูลลี่ หนีออกจากบ้าน

            กว่าจะเฉิดฉายเป็นตัวแม่ตัวมัม ใช้ชีวิตในสิ่งที่อยากเป็น อดีตพระเอกยุค90 “โก้ ธีรศักดิ์” ต้องต่อสู้ชีวิตมาอย่างโชกโชน เพื่อที่จะเป็นLGBTQ+ได้อย่างภาคภูมิ งานนี้ขอถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตหมดเปลือก เปิดใจกลางรายการดัง “โต๊ะหนูแหม่ม” เล่าชีวิตสุดดรามาที่ต้องเผชิญเรื่องราวมาแบบสุขเศร้าเคล้าน้ำตา

อ่านข่าวต่อ: เพื่อนดาราร่วมอาลัย “โก้ ธีรศักดิ์” สูญเสียคุณพ่อ

โก้ ธีรศักดิ์

โก้ ธีรศักดิ์

            แต่ก่อนคนจะมองว่าเป็นไวรัสชนิดนึง ซึ่งคนจะแอนตี้กลัวว่าดูทางบ้านแล้วจะติด คือเรารู้ตัวตั้งแต่เด็กนะ รู้ว่าเรามาแนวนี้อ้อนแอ้นๆ ที่บ้านเขาก็พอรู้ พอสงสัยแต่ก็ฟาดซะยับเลย รู้ตัวมาตลอด พอม.1 เป็นเพื่อนกับนุ๊ก สุทธิดา ก็สวยคู่กันมาเลย ครอบครัวโก้มีพี่น้อง5คน โก้เป็นคนเล็ก มีพี่ผู้หญิง 3 คนโต ที่บ้านไม่มีใครอนุญาตเพราะสมัยก่อนค่อนข้างที่จะแอนตี้ และด้วยความที่เป็นครอบครัวคนจีนด้วย เราก็จะโดนฟาดโดนตีตลอด

โก้ ธีรศักดิ์

โก้ ธีรศักดิ์

     เพราะส่วนมากโรงเรียนจะชอบโทรมาฟ้อง เราเรียนอยู่ที่โรงเรียนคริสต์ โรงเรียนชายล้วนที่นั้นจะแต่จะเล่นงาน LGBTQ+เหลือเกิน ถึงขั้นถูกเชิญออกด้วยเหตุผลเป็นLGBTQ+ ออกทั้งกลุ่มทั้งก๊วนเลย เพราะเขาไม่ให้เรียนต่อ ที่เขาจับได้ก็เพราะแสดงออกเยอะ ก็สมัยก่อนมันก็ต้องมีบ้างนะ หน้าขาวปากแดง แต่ที่จะโดนเลยสมัยก่อนเลยคือการค้นกระเป๋า ว่ามีอุปกรณ์อย่างอื่นที่เหนือชายหรือเปล่า อย่างเช่นถ้าเจอแป้ง มาสคาร่าเขาก็จะเชิญผู้ปกครอง ยึดของ มันก็เหมือนกับว่าเป็นความผิดอย่างนึง แล้วพออยู่ที่บ้าน ที่บ้านเองก็ไม่ยอมรับเขาก็จะมาตรวจดูว่ามีอุปกรณ์แต่งหน้าหรือเปล่า

โก้ ธีรศักดิ์

โก้ ธีรศักดิ์

              คือที่บ้านคือไม่ได้เลย ไม่อยากให้เป็น ถือว่ามันผิดแล้วทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย แทบจะโดนขับไล่ออกจากตระกูลเลยนะคะ เรียกได้ว่าบ้านโก้ดุมาก โดนตียิ่งกว่าอีเย็น นางทาส โดนเฆี่ยนแบบว่าโตมากับไม้เรียว จนย้ายมาเรียนโรงเรียนสหฯ จนได้มารู้จัก นุ๊กสุทธิดา ตอนแรกเพื่อนก็ไม่รู้ แอ๊บๆก่อน แอ๊บตอนเข้าใหม่ๆ แต่แอ๊บไปแอ๊บมามันก็หลุด คือตอนนั้นหนักมาก ข้ามเส้นการฆ่าตัวตาย คือมันน้อยใจคิดแบบเด็กๆ เข้าไปในตู้เสื้อผ้าเราปิดประตู และให้อากาศมันหมดพอเราหมดแล้วเราก็เปิดประตูออกมา เพราะเราร้อนเราก็ออกเอามา คนที่คิดจะฆ่าเอาจริงมันไม่ทำหรอก คนที่เขาจะทำคือทำเลย เดี๋ยวความที่เป็นเด็กเราทำอะไรไม่คิด สุดท้ายก็เลยเลือกที่จะหนีออกจากบ้านดีกว่า เพราะว่าตอนนั้นเราก็คิดว่าเรามีทรัพย์สินพอสมควรแล้ว ตอนนั้นก็รอด มาอยู่กับครอบครัวเพื่อน

     พ่อแม่เพื่อนก็ดีมากเพราะเค้ารู้ว่าบ้านโก้ดุมาก ตอนนั้นเป็นช่วงมหาวิทยาลัยแล้วที่ออกมาอยู่กับเพื่อน สุดท้ายก็เริ่มหารายได้ไปขายของที่สวนอัมพร เพราะคิดว่าทักษะแบบเราไปขายอะไรก็ขายได้ แต่สุดท้ายพ่อแม่พี่น้องก็มาตามหา ไม่รู้ว่ารู้ได้อย่างไรว่าเรามาขายของที่สวนอัมพร ตอนนั้นเราก็ไม่อยากกลับเพราะเรากลัว เราไม่อยากกลับไปสังคมที่บ้านไม่ใช่บ้าน และทุกคนดุร้ายมาก ใช้คำพูดแต่ละอย่างที่ทำให้เราสะเทือนใจ คิดว่าสมัยก่อนเรียกว่าโรคซึมเศร้าได้เลยนะ แต่เรายังไม่ถึงขั้นแบบนั้นเพราะว่าเราหนีออกมาก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments