“เชน ธนา” โดนตราหน้าว่าโกง แบกหนี้ 800 ล้านชีวิตขึ้นสุดลงสุด ดีที่ไม่ตาย!
ออกมาเปิดใจสำหรับ “เชน ธนา” ที่เกือบทำให้ไม่รอด แบกหนี้ 800 ล้าน ชีวิตขึ้นสุด ลงสุด แต่ไม่ยอมแพ้! จากเด็กหัวการค้าสู่ศิลปินบอยแบนด์ และนักธุรกิจพันล้านที่เผชิญวิกฤตหนักครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมบทเรียนชีวิตที่ว่า “ทุกครั้งที่ชีวิตติดลบ เขาเชื่อว่าจะมีบวกเสมอ”
อ่านข่าวต่อ: ส่องมิตรภาพสุดซึ้ง! “หนูแหม่ม” หอบกำลังใจช่วย “เชน ธนา”
ชีวิตผมขับเคลื่อนด้วยความรักนะครับ จุดอ่อนของผมก็คือเรื่องความรัก ต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้าความรักสะดุด ทุกอย่างก็พังหมด พอเจอคนนี้ ผมแค่รู้สึกว่าเขาเป็นพื้นที่ปลอดภัยของผมจริงๆ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ หายใจแล้วโล่ง ไม่รู้สึกว่าผมต้องเป็นคนผิด เราเรียนรู้กันอยู่ครึ่งปี ตอนนั้นอยู่บ้านเดียวกันด้วย เขาเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ใช้ชีวิตแบบ Slow Life ซึ่งมันต่างจากผมมาก ชีวิตผมวิ่งมาราธอนมาตลอด แล้วพอเจอเขา มันเหมือนได้หยุด ได้กลับมาเป็นตัวเอง ดีที่ไม่ตาย เพราะถ้าตายตอนนั้นไป มันก็เหมือนแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่มันไม่ใช่ มันเป็นแค่ช่วงนึงของวัยรุ่น ที่อารมณ์พาไป เหมือนตอนอกหักแล้วอยากเปิดฝักบัวราดหัวเฉย ๆ พอมองกลับไปตอนนี้ ผมอยากกลับไปตีหัวตัวเองเลย
โมเมนต์ที่จดจำ อายุ 27 ปี - ปัจจุบัน
เชน ธนา : หลังจากอายุ 26 ปี ผมได้เจอกับภรรยา ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีสัญชาตญาณของการเป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มตัว พอเข้าอายุ 27 - 31 หลายคนน่าจะจำภาพลักษณ์ของ “เชน ธนา Amado” ได้ดี แปลว่า ‘สุดที่รัก’ เป็นช่วงที่ทำยอดขายได้ 100 ล้านแรก ตอนนั้นผมเพิ่งปลดหนี้ได้เกือบหมด แต่ยังไม่มีเงินก้อนพอจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ยังไม่พร้อมมีครอบครัว
เพราะรายได้หลักแสนต่อเดือน ยังไม่พอจะผ่อนบ้านให้แม่ แม่ก็กำลังรักษาอาการเกี่ยวกับสมอง ต้องตรวจ MRI ตลอดเวลา ถ้าจะผ่าตัดก็เป็นล้าน พอเจอภรรยา ผมเลยประเมินว่า ต้องมีรายได้เดือนละอย่างน้อย 300,000 บาท ถึงจะพร้อมดูแลครอบครัวได้จริง ๆ เลยคิดว่าคงต้องลาออกจากวุฒิศักดิ์คลินิก แล้วเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ตอนนั้นผมเริ่มเห็นเทรนด์ Health & Beauty ทั่วโลก เป็นเทรนด์ที่โตเร็วมาก ผมเลยเอาความรู้แบบครูพักลักจำจากการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์น้ำดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ได้เห็นโครงสร้างธุรกิจของยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และ Traditional Trade ไปขอเงินลงทุนจากนายทุน
ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครพูดถึงคำว่า “Startup” อย่างจริงจังเลย ผมแค่รู้ว่า ถ้าอยากได้เงินลงทุน ก็ไปขอ แล้วถ้าเขาให้ ก็แบ่งหุ้นกัน ไอเดียของผมตอนนั้นคือ เปลี่ยนบ้านธรรมดาปากซอย ให้กลายเป็นศูนย์กระจายสินค้า เวลามีออเดอร์จากออนไลน์ ก็ให้ขนของจากบ้านไปส่งไปรษณีย์ไทย ผมเอาแผนนี้ไปเสนอใครต่อใครก็ไม่มีใครเอา ทุกคนมองว่าบ้าไปแล้วจนสุดท้ายมาเจอเจ้านายผมเอง ซึ่งกลายเป็นหมากตัวสุดท้ายที่ให้เงินลงทุน 5 ล้านบาท นั่นคือจุดเริ่มต้นของธุรกิจเสริมอาหารสไตล์ Startup ยุคนั้น ในปี 2557 ผมเริ่มต้นจากทุน 5 ล้านบาท จนทำยอดขายได้ 200 ล้านบาทในปี 2560
ภายในเวลาแค่ 3 ปี หลังจากนั้น ผู้ถือหุ้นก็เริ่มมีแผนจะนำบริษัทเข้า IPO มีการเพิ่มทุนและปรับโครงสร้างหุ้นครั้งใหญ่ ผมเองถือหุ้นลดลงจาก 100% เหลือ 38% ส่วนอีกฝ่ายถือ 62% ช่วงนั้นแม่ก็ต้องเข้าสู่การรักษาครั้งใหญ่พอดี ยังไม่ถึงขั้นติดลบ แค่มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้น ชีวิตผมก็เปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้ง เราแต่งงานกัน และซื้อบ้าน ซื้อรถ และขยายขนาดชีวิตในช่วงนั้น ปี 2561 เกิดวิกฤตครั้งใหญ่ในวงการอาหารเสริม เพราะมีกรณีที่มีผู้เสียชีวิตหลังจากรับประทานผลิตภัณฑ์แบรนด์หนึ่ง ทำให้กลายเป็นเหมือนคลื่นสึนามิถล่มอุตสาหกรรมทั้งหมด ผมเสียดายมากนะ ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้น ประเทศไทยอาจจะเป็นศูนย์กลางของอาหารเสริมโลกได้
กระทบกับ Amado โดยตรงเลยไหม
เชน ธนา : ตอนแรกยังไม่กระทบเรา แต่แบรนด์ใหญ่ๆ เริ่มหนีไปผลิตในต่างประเทศ เช่น เกาหลี เพราะกลัวการตรวจสอบในไทย ส่วนเราโดนทีหลัง เริ่มจากเพจชื่อดังเพจหนึ่งที่มีอิทธิพลมาก เขาชี้เป้าแบรนด์ต่างๆ ว่าผิดกฎหมาย บางแบรนด์โดนตรวจสอบ บางแบรนด์ถึงขั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ แล้วก็โดนกันทีละแบรนด์ จนวันหนึ่งมันมาถึง Amado เรื่อง "สลากอาหารผิด" จริงๆ แล้วเป็นแค่การพิมพ์เลขที่โรงงานผิดจาก 119/11 เป็น 191/11 ซึ่งตามกฎหมายถือว่าผิด แต่ไม่มีผลต่อความปลอดภัยของสินค้าเลย แค่เปลี่ยนเลข แต่คนเข้าใจว่าเราผลิตผิดกฎหมาย
ผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัว
เชน ธนา : ตอนนั้นภรรยาผมกำลังตั้งครรภ์ลูกชายคนแรก ประมาณเดือนครึ่ง อยู่ดี ๆ ก็มี Inbox ด่าเข้ามาเป็นหมื่นข้อความ ทำให้ภรรยาเครียดจนเลือดออก ต้องโทรหาหมอด่วน วันนั้นผมนั่งตอบคอมเมนต์ทีละข้อความทั้งคืน บอกทุกคนว่า “ใจเย็นครับ เดี๋ยวผมชี้แจง” ผมจะฟ้องทุกคนที่หมิ่นประมาทเกินไป สุดท้ายเขาก็ขอโทษ จุดเปลี่ยนคือ 5 โมงเย็นวันนั้น เข้าไปในห้องหมอพาภรรยาเข้าไป หมอก็ตรวจอัลตร้าซาวด์ ได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้นครั้งแรกในชีวิต ตั้งแต่วินาทีนั้นจนวันนี้ ปี 68 ผมก็ไม่ได้พักเลย ยังสู้เพื่อครอบครัวมาตลอด
จากตรงนี้ คิดว่าคุณผ่านจุดนั้นมาได้หรือยัง
เชน ธนา : อายุ 37 ปี มีหนี้ 800 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นทิ้งไปหมด คู่ค้าเหลือไม่กี่ราย มันหนักเกินไป โลกทั้งใบของ Amado เหลือแค่ผมกับไม่กี่คนที่ยังเชื่อมั่น แต่โชคดีที่คนที่ยังอยู่ เขาเข้าใจว่าเราตั้งใจจริง ๆ มันอาจจะทำให้เรารอดจากวิกฤตครั้งนี้ได้