“ฟรีน - เบ็คกี้” รับช็อกหลังโดนซาแซงประชิดตัว จับได้แล้วแต่ยังกังวล เพิ่มมาตรการเข้ม
ทำเอาหลายคนเป็นห่วงไม่น้อย เมื่อนักแสดงสาว “ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ” ถูกบุคคลปริศนาหรือซาแซงคุกคามในระยะประชิดตัวอย่างไม่คาดคิดระหว่างที่เจ้าตัวกำลังทำงาน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี “เบ็คกี้ รีเบคก้า” คู่จิ้นอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย มีโอกาสเจอทั้งคู่เลยถามถึงเรื่องนี้
อ่านข่าวต่อ : “ฟรีน - เบ็คกี้” พร้อมเสิร์ฟใน “เสน่หาวาโย” แฟนมีตไทเปสุดอบอุ่น เพิ่มการ์ดมากขึ้นหลังถูกประชิดตัว
“ฟรีน” เผยว่า... “เรื่องที่เราโดนละเมิด ตอนนี้เหมือนเขาจับได้แล้วว่าเป็นใคร เหมือนได้ยินมาว่าเสียค่าปรับแล้วก็ปล่อยตัวไป ถามว่ามีความกังวลไหมว่าเหตุการณ์นี้จะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง คือหนูก็ไม่สามารถที่จะควบคุมสิ่งนั้นได้ หนูโฟกัสแค่ตัวเองว่าตัวเองรู้สึกยังไง ควบคุมตัวเองได้ก็พอแล้ว ส่วนในเรื่องของการ์ด คือทางเรามีอยู่แล้ว แต่ก็มีเพิ่มมาตรการมากขึ้นอีก หลังจากนั้นฟรีนก็มีงานและมีการ์ดเพิ่มขึ้นมาอีก เราก็ใช้ชีวิตตามปกติ พยายามเล่นกับแฟนคลับอยู่แล้ว แต่วันนั้นมันกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่ได้คิดว่ามันจะเกิด คือหนูโฟกัสอะไรไม่ได้เลย คือเราต้องร้องเพลงใหม่ที่ไม่เคยร้องมาก่อน และมีท่าเต้นด้วย ตอนนั้นก็คือต้อง The show must go on คือไม่รู้สถานการณ์ตรงนั้นมันเป็นยังไง แต่เราต้องขึ้นเวทีแล้ว เราต้องทำงานก่อน พอจบงานแล้วก็มาคุยกับตัวเองว่าเรารู้สึกอะไรบ้างตอนนั้น ก็เยียวยาตัวเอง เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ตอนนั้นถามว่ามีการระแวงขึ้นไหม ก็มีบ้าง แต่ก็พยายามปกติให้ได้มากที่สุด เพราะแฟนๆ รอเจอเรา เราก็รอเจอเขา เป็นกำลังใจให้กัน เราโฟกัสตรงนั้นดีกว่า...
การเยียวยาใจของเราที่ผ่านมา ก็มีการคุยกับตัวเอง เรายอม รับความรู้สึกตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน เรารู้สึกอะไร เราควบคุมอะไรได้บ้าง เราเปลี่ยนแปลงอะไรในมายด์เซตของเราบ้าง แต่ในสิ่งที่มันควบคุมไม่ได้ ฟรีนก็จะไม่ควบคุมมันเลย
คือเหตุการณ์ตอนนั้นเขาประชิดตัวเราเลย เขาจับ และหน้าเขาห่างกับเราไม่เยอะ หนูก็งง คือหายไปแวบหนึ่งเลยเหมือนกับช็อก แต่ถ้าเราเห็นใครในลักษณะแบบนี้อีก คือเราก็กังวลว่าในอนาคตหมายถึงว่ามันไม่ควรเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครทั้งนั้น กับศิลปินหรือว่ากับใครทั้งนั้น คือยังโชคดีที่ไม่ได้เกิดอะไรแบบบาดเจ็บร้ายแรงอะไร แต่ถ้าสมมุติว่ามีอาวุธ อันนี้หนักเลย คือเราไม่รู้ว่าเขาจะมาในรูปแบบไหน”
ด้าน “เบ็คกี้” ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้แสดงความรู้สึกห่วงใยถึงพี่สาวคนสนิทว่า “พอเกิดเหตุการณ์นี้ ตัวเราก็เป็นห่วงพี่เขา คือเราก็คุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น มันเหมือนทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก”...
