“น้ำตาล” เคลียร์ดราม่าถูก “ใบหม่อน” แซะ! ฟาดกลับถึงจะแรง แต่ไม่ทำใครก่อน

“น้ำตาล” เคลียร์ดราม่าถูก “ใบหม่อน” แซะ! ฟาดกลับถึงจะแรง แต่ไม่ทำใครก่อน

            กลายเป็นดราม่า เมื่อ “ใบหม่อน ทิฟฟานี่” หรือ “ใบหม่อน โสภิดา” Top 3 Miss International Queen 2015 หนึ่งในผู้เข้าแข่ง ขันนางร้ายไทยแลนด์ ซีซั่น 2 ที่ออกมาพูดพาดพิงแซะ “น้ำตาล ชลิตา” ต่างๆ นานา ทั้งบอกว่าตนได้ top 3 น้ำตาลได้ top 6 ขณะที่ทาง “น้ำตาล” ไม่ทนออกมาฟาดกลับเดือด

อ่านข่าวต่อ : “น้ำตาล ชลิตา” เผยไม่เคยมีปัญหากับใคร วอนอย่าพาดพิงกัน ถ้าใครจะพูดอะไรโปรดพูดความจริง…

          “เอาจริงๆ เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาออกมาพูดทำไม เพราะว่าเราเองก็ไม่เคยมีปัญหากัน ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่เขาออกมาสัมภาษณ์แบบนั้นแล้วพูดถึงเราแบบนี้เราก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร วันไฟนอลก็ได้เจอกันแต่เขาก็ไม่ได้สบตาอะไรก็ไม่เหมือนตอนที่สัมภาษณ์เลย ก็เลยไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง ณ ตอนที่เราทำงานอยู่ตรงนั้น ก็คือเราไปในฐานะคุยและทักทายทุกคนหมดอยู่แล้ว เอาจริงๆ เรารู้จักเขา ว่าเขาเป็นมิสทิฟฟานี่ แต่ว่าไม่เคยสนิทกันแล้วก็ไม่รู้ว่าเคยได้คุยไหม แต่ว่าถ้าเคยได้คุยหรือว่าสนิทกันมันต้องอยู่ในความทรงจำนิดนึงบ้างเพราะว่าถ้าคนสนิทยังไงมันก็ต้องอยู่ในความทรงจำ คือถ้าคนไม่สนิทหรือคนที่ไม่ให้ค่าก็จะปล่อยผ่านไป เราเห็นเขาตอนไหน คือเราไม่รู้เราไปได้คุยกับเขาหรือเปล่าเพราะเราก็คุยกับทุกคนอยู่แล้วแหละแก๊งหิ้วหวีเนอะ กับพี่อ้อมแฟนเก่าเขา เราเพิ่งมาคุยกับพี่อ้อมเมื่อปีที่แล้ว เพิ่งรู้จักกันแล้วก็คุยกันนี่เอง เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเราได้คุยกับเขาหรือเปล่า ถามว่าเซ็งตรงไหนหรอกับสิ่งที่เขาพูด ก็เซ็งตรงที่มันไม่ใช่เรื่องจริง

            เราก็โชว์ให้ดูแล้วว่ามันไม่มี ก็ไม่มีคือถ้ามีเราไม่ได้โกหกหรือแต่งเรื่องอยู่แล้ว เพราะเราไม่ชอบเรื่องโกหกหรือแต่งเรื่อง มีอะไรก็โชว์กันตรงๆ จริงๆ ไม่ต้องมานั่งเปรียบเทียบหรือเหน็บแนม เพราะเราก็รู้สึกว่าเราก็ภูมิใจใน top 6 จักรวาลเหมือนกัน แล้ว 130 ล้านโหวตทั่วโลกก็ไม่ได้มาง่ายๆ เหมือนกันได้ท็อป 3 ก็ดีใจด้วย

           ก็รู้สึกเหนื่อยกับดราม่าเหมือนกัน ทุกวันนี้เราก็พยายามที่จะไม่ออกมาพูดอะไรมากมาย คือแค่มองหน้าคนก็ชอบจะด่าเราแล้ว ต่อให้คนเห็นหน้าเราเขาก็บอกว่าอีนี่มันมั่นอีนี่มันแรง เราก็พยายามเงียบๆ แต่ว่าอะไรที่มันรู้สึกว่าเกินไปหรือว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาพูดเราก็ต้องออกมาปกป้องตัวเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้าเป็นไปได้เราก็จะไม่ออกมาพูดอะไรมากมาย ไม่ได้โกรธแต่แค่อยากรู้ว่าเขาออกมาทำไม ถ้าถามว่าอยากให้เรื่องนี้จบยังไง ไม่เกี่ยวเลยว่าเราไม่มืออาชีพ เขารู้หรือเปล่าว่าวันนั้นเราไป ถ้าเขาไม่รู้อะไรเขาอย่าเพิ่งพูด มันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอ คือเราไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเขาในชีวิตเขาขนาดนั้นหรอก ไม่ต้องมาขอโทษอะไรมากมาย แต่แค่จะพูดอะไรพาดพิงถึงกันพูดในเรื่องของความเป็นจริงดีกว่า แต่ว่าจริงๆ เราไม่เคยมีปัญหากันไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาเหน็บแนมหรือพูดในทางที่มันไม่ดีต่อกัน เพราะว่าสังคมทุกวันนี้มันก็เลวร้ายมากพอแล้ว เราไม่ต้องจำเป็นที่จะต้องใส่ร้ายหรือใส่ความกันให้มันรุนแรงทะเลาะหรือบาดหมางขึ้นกว่านี้ดีกว่า

           คิดว่าเขาจะมาเอาแสงจากเราไหม ก็ได้แล้วแต่ซีนนั้นแย่มาก ไม่ได้อยากถามเขาว่าทำเพื่ออะไร ไม่ได้อยากรู้สึกว่าจะคุยอะไรกับเขา เป็นมนุษย์ร่วมโลกดีกว่า ถ้าถามว่ามีผู้ใหญ่เป็นกาวใจไหม คือเราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย เราโดนจ้างมาให้เป็นลูกจ้างในการเป็นควีนมาสเตอร์ของรายการแค่นั้นซึ่งเราไม่ได้มีอะไรที่มันผูกพันกันหรือผูกมัดกันเหนียวแน่นอะไรขนาดนั้นค่ะ จบแล้วก็คือจบเลย เราคิดว่าคงจะจบยาก ยังไงก็เกิดแต่กับกู นอกจากเราเงียบไปซะไม่พูดอะไรเลย แต่คนเขาก็จะเข้าใจผิดเรา เราอาจจะเป็นคนแรงๆ กล้าพูดแต่เราไม่ทำใครก่อน”