“โอบ” ยังแอบอิจฉาตัวเองคบ “เลดี้ปราง” ชมอีกฝ่ายเป็นสายซัพพอร์ตคอยให้กำลังใจ
มีโมเมนต์หวานๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้อิจฉาอยู่ตลอด สำหรับคู่ของหนุ่ม “โอบ โอบนิธิ” กับสาวคนสนิท “ปราง กัญญ์ณรัณ” หรือ “เลดี้ปราง” ที่ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่มโอบเลยไม่พลาดที่จะถามถึงความหวาน รวมไปถึงงานแฟนมีตติ้งที่ผ่านมาว่า
ดีใจมากเลยที่เกิดขึ้น มันเหมือนเป็นสิ่งที่เราอยากจะทำมาตั้งนานแล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจริงๆ เราจะได้ทำมันเมื่อไหร่ และเรารู้สึกว่าพอจบแฟนมีตมาแล้วก็ได้รับฟีดแบ็กจากคนดูหรือจากคนที่มาชมเรา เราก็รู้สึกดีใจ มันเหมือนสิ่งที่เราตั้งใจทำมามันหายเหนื่อย เราก็ถือว่าเราเป็นศิลปินคนนึงเราก็อยากได้พลังที่เต็มเปี่ยมแบบนี้กับแฟนคลับและแฟนเพลง ยอมรับตอนแรกกังวลหลายอย่างมาก สุดท้ายแล้วเราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เรากังวลมันจะเกิดขึ้นไปก่อนแหละ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเราไม่ทำ เราไม่อยากให้อนาคตเรามามองแล้วรู้สึกว่ารู้งี้เราน่าจะจัด แต่พอเราจัดเสร็จปุ๊บ มันเป็นมวลความรู้สึกที่ดี ประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมายังนั่งเสพโมเมนต์ต่างๆ ที่แฟนคลับมีความสุขกันอยู่เลย
สำหรับแฟนมีตเลดี้ปรางไปให้กำลังใจด้วย คือเขาถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้เราทำงานนี้ออกมาได้ คือโอบเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในการทำอะไรบางอย่างที่มันเกินตัว เขาก็จะเป็นคนคอยบอกว่า เธอทำได้ เธอเก่งมากเขาเป็นคนซัพพอร์ตเราตลอดตั้งแต่วันที่เราปล่อยเพลง หรือวันที่เรามีความคิดอยากจะทำแฟนมีต หรือทำอัลบั้มขึ้นมา
คือเขาให้กำลังใจเป็นคำพูดมากกว่า ที่ชอบบอกว่าเธอทำได้ เธอเก่งอยู่แล้ว เพราะเขาเห็นเราสู้และเราตั้งใจมาตลอดในการทำงานทางด้านการเป็นศิลปิน จริงๆ โอบจะบอกว่ามันมีคนเบื้องหลังแค่ไม่กี่คนเองมีโอบแล้วผู้จัดการโอบแค่ส่วนใหญ่ มีแค่สองคนที่สามารถขับเคลื่อนเพลงต่างๆ ของโอบไปให้ทุกคนมากที่สุด คือโอบอยากให้เพลงต่างๆ ของโอบกระจายไปสู่คนฟังให้ได้มากที่สุดเท่าที่ศิลปินตัวน้อยๆ คนนี้จะทำได้ อย่างไวรัลที่เมนต์กันไปเมนต์กันมา เราก็ทำตามที่เราสามารถทำได้ไง เราทำอะไรได้ เราก็ทำได้ปกติ หลายคนก็จะชอบบอกว่า ไอ้นี่เป็นแก้วมังกร มันเม็ดเยอะเหลือเกิน ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของไร่ขิง ผมปลูกไร่ขิงขายเลย
ที่ไปเมนต์ในไอจีปรางมันเป็นเนื้อเพลงของโอบ มันพูดว่าเอาจริงๆ นะบางทียังอิจฉาตัวเองเลยว่าเรามีโอกาสได้มีเขาอยู่ในชีวิต เราก็เลยรู้สึกอิจฉา ก็ถ้าจะให้พูดอย่างนั้นก็คือแต่งให้เขานั่นแหละ มันเป็นความสัมพันธ์อย่างที่บอกมันเป็นการเดินทางความรักในช่วงๆ หนึ่งของโอบ โอบก็เลยอยากเอามาสื่อสารให้คนได้รับรู้ หรือคนได้รีเลตได้มากที่สุด มันเป็นโมเมนต์ที่เกิดขึ้นมากกว่า โอบรู้สึกว่าบางทีก่อนเราจะแต่งเพลงอะไร มันจะเป็นการที่เรารู้สึกว่าถ้าเกิดโอบมีความรู้สึกอะไรโอบจะจดเอาไว้ ว่าบางทีเรายังอิจฉาตัวเองเลยนะไม่ใช่แค่เรื่องเขาอย่างเดียว เรื่องคนอื่นๆ ด้วย บางทีเรายังอิจฉาตัวเองเลยที่มีโอกาสนู้นนี่นั่น