เปิดใจ “ลุกซ์ ชาญวิทย์” ป่วยซึมเศร้าหลังเจอมรสุมครอบครัว เผยคำพูดสุดซึ้ง “น้องเวทมนต์” ถึง “พ่อแมน”

เปิดใจ “ลุกซ์ ชาญวิทย์” ป่วยซึมเศร้าหลังเจอมรสุมครอบครัว เผยคำพูดสุดซึ้ง “น้องเวทมนต์” ถึง “พ่อแมน”

0

เปิดใจ ลุกซ์ ชาญวิทย์ ป่วยซึมเศร้าหลังเจอมรสุมครอบครัว เผยคำพูดสุดซึ้ง “น้องเวทมนต์” ถึง “พ่อแมน”

           เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่เจอมรสุมครอบครัวมาอย่างหนักสำหรับ “ลุกซ์ ชาญวิทย์” น้องชายของ “ใบเตย อาร์สยาม” ที่ถึงขั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจถึงชีวิตฟ้าหลังฝนของพี่สาว รวมถึงควงหลานสาวสุดน่ารัก น้องเวทมนต์ มาอัพเดทความสนิทน้าหลาน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร และไปฟังคำพูดจากปาก น้องเวทมนต์ ที่พูดถึงพ่อแมนกลางรายการ 

ลุกซ์ ชาญวิทย์

เวทมนต์เลี้ยงง่ายไหม?

ลุกซ์ : ไม่ยากนะ ให้ทำอะไรก็ทำ อาบน้ำเอง แปรงฟันได้แล้ว และมีความคิดเป็นของตัวเอง เช่นชุด ไม่อยากใส่ตัวนั้น ไม่อยากใส่ตัวนี้ ชุดวันนี้ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เหมือนโดนบังคับอยู่

 

ตอนที่ใบเตยกับน้องเวทมนต์เจอกันครั้งแรกเป็นยังไง?

ลุกซ์ : ถ้าถามเวทมนต์เขาคงตกใจนิดนึงว่าทำไมคนมาที่บ้านเยอะจังเลย แล้วทำไมทุกคนดูแฮปปี้ มีความสุข บางคนก็ร้องไห้ เขาคงงงว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งลุกซ์ว่าเขาเด็ก ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่ถามว่าดีใจไหม เขาดีใจ แม่กลับมาแล้ว

 

ล่าสุดถ่ายคลิปร้องเพลงกันสองคนแม่ลูก สื่อความหมายไปถึงพี่แมน?

ลุกซ์ : ลุกซ์ว่าพี่เตยคงคิดถึงแหละ แล้วเวทมนต์เขาก็ถามหาทุกวัน

ลุกซ์ ชาญวิทย์

ลุกซ์ ชาญวิทย์

เห็นว่าตอนนี้ติดคุณแม่มากๆ?

ลุกซ์ : ติดมากเลย ตลอดเวลา จริงๆ วันนี้จะไม่มานะ ถ้าแม่ไม่มาด้วย

 

คิดถึงปาป๊าไหม?

เวทมนต์ : พยักหน้า

 

ถ้าปาป๊าดูอยู่อยากบอกอะไร?

เวทมนต์ : คิดถึงปาป๊า

 

น้า หลาน รักกันขนาดนี้ ลุกซ์แพ็คของออกมาจากบ้านทะเลาะกับใคร?

ลุกซ์ : ไม่ได้ทะเลาะ ส่วนตัวเราของเยอะมากๆ แล้ววันที่เราย้ายมาอยู่ที่บ้านเนี่ย ของเยอะ มันไม่ค่อยสะดวก อีกอย่างเราอยู่บ้านนี้มา 6-7 เดือนแล้ว เราก็อยากกลับไปใช้ชีวิตของเราบ้าง เพราะพี่เตยก็กลับมาแล้ว อยากให้เขาใช้โมเมนต์กับพี่เตยให้เต็มที่ แล้วเราส่วนตัวบ้านหลังนั้นคุณพ่ออยู่คนเดียว แล้วบ้านมันค่อนข้างโทรม พ่อไม่ค่อยได้ทำอะไร เราเลยกลับไปดูแลบ้านนู้นด้วย

ลุกซ์ ชาญวิทย์

ได้ปรึกษาพี่เตยไหม?

ลุกซ์ : พี่เตยไม่อยากให้ไปเลย ก็คุยกันหลายวันเหมือนกันว่าจำเป็นต้องไปนะ เพราะว่าแบบที่ผ่านมาเราอยู่กัยหลานมาทุกวัน เราใช้คนอื่น ความรักจากหลาน จากคนรอบตัวมาล่อเลี้ยงเราว่าเราเข้มแข็ง แล้วสิ่งที่รู้สึกได้หลังจากที่พี่เตยกลับมาลุกซ์แฮปปี้มากนะ มีความสุขมาก แต่ลุกซ์ได้รู้จริงๆ ว่าชีวิตลุกซ์ไม่เหมือนเดิม เราก็คิดถึงแฟน เหมือนพี่เตยกลับมา แต่แฟนเราไม่ได้กลับมา เรารู้สึกว่านี่คือความจริงที่เราต้องเจอ เราเลยแบบลองไปเข้มแข็งกับตัวเองดู เพราะที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตอยู่กับความรักของคนอื่น

 

ย้ายออกนี่ไปอยู่ที่ไหน?

ลุกซ์ : อยู่บ้านอีกหลัง ไม่ไกลกัน ประมาณ 10-15 นาที

 

ณ ตอนนี้ลุกซ์รู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้า?

ลุกซ์ : เรียกว่าไปปรึกษามาดีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คือ หลังจากที่กลับมาอยู่กับตัวเองแล้วเนี่ยเหมือนร้องไห้ทุกวันเลย เหมือนเราเจอเรื่องที่เราสูญเสียไป คนรอบข้างเสีย หรือใครมีปัญหากับแฟน เรารับไม่ได้เลย เราเศร้ามาก เรารู้สึกว่าต้องเป็นอะไรสักอย่างแน่ๆ ทีนี้เราคิดว่าต้องไปหาคุณหมอ เพราะเรารับไม่ได้เลยกับการสูญเสีย มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ เราจะร้องไห้หนักมาก แล้วคนรอบข้างเราก็รู้สึกว่าเราน่าจะมีปัญหา ก็เลยให้ไปปรึกษา

ลุกซ์ ชาญวิทย์

ลุกซ์ ชาญวิทย์

คุณหมอว่ายังไง?

ลุกซ์ : คุณหมอเขาจะไม่ได้เคาะหรอกว่าเราเป็นอะไร แต่ตัวยามันจะบอก

 

ลุกซ์ต้องรับยา?

ลุกซ์ : ใช่ ต้องรับยาแล้ว แต่จริงๆ ลุกซ์ว่าลุกซ์เข้มแข็งมากนะ แต่แค่มันเป็นอาการเสียใจจริงๆ แหละ ได้รู้สึกว่าชีวิตได้กลับมาจริงๆ มันไม่เหมืแนเดิม เราต้องดิลกับตัวเองว่าโอเค ชีวิตมันไม่มีเขาแล้ว มันต้องอยู่ให้ได้ เราต้องเข้มแข็ง ไม่ใช่ว่าเจอเรื่องสูญเสีย ใครเป็นอะไร แล้วเรรมานั่งร้องไห้ นึกถึงแฟนมันคงจะไม่ได้

 

เรื่องที่ครอบครัวลุกซ์เจอหนักจริงๆ 1.เรื่องของใบเตย ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีเรื่องของแฟนลุกซ์ด้วย ตัวลุกซ์เองไม่มีเวลาให้ตัวเองเสียใจเลย ต้องเข้มแข็งทันที เพราะเป็นเสาหลักของบ้าน อันนี้หรือเปล่าที่เป็นสาเหตุ?

ลุกซ์ : คิดว่านะ เพราะว่าเหมือนเรามีมิชชั่นทุกวันเลยว่าต้องทำนั่น นี่นู้น

 

พอพี่เตยกลับมาแล้ว ลุกซ์ดีใจ แต่เรื่องมันเกิดใกล้ๆ กัน แต่แฟนเราไม่กลับ?

ลุกซ์ : ใช่ๆ 

 

ทีนี้ลุกซ์ย้ายไปอยู่ที่บ้านที่คนน้อยกับพ่อมันจะดีขึ้นหรือแย่ลง?

ลุกซ์ : คิดว่าอยากฝึกให้ตัวเองเข้มแข็งดีกว่า เพราะสุดท้ายเราก็ต้องใช้ความรักจากตัวเอง คือคุณหมอจะเน้นเลยว่าให้เรารักตัวเอง เพราะถ้าเราอยู่บ้านกับพี่เตยกับหลาน เราก็ทุ่มไปให้เขาเต็มที่ โดยไม่ได้ถามตัวเองเลยว่าเราต้องการอะไร วันนี้เราเลยขอลาพี่เตยแป๊บนึง ว่าเราขอไปทำความรู้จักตัวเองก่อนว่าตัวเราเองเป็นยังไงบ้าง แล้วก็รักษา

ลุกซ์ ชาญวิทย์

ทุกวันนี้เราดีขึ้นยัง?

ลุกซ์ : คิดว่าดีขึ้นนะ เพราะยาทำให้รู้สึกบางวันแฮปปี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อน รู้สึกตัวเองยิ้มแย้มแจ่มใส่

 

ตอนที่ลุกซ์ต้องดูเวทมนต์คนเดียว บรรยากาศตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?

ลุกซ์ : จริงๆ ต้องบอกว่าลุกซ์มีพี่เลี้ยงที่คอยดูแลน้องเวทมนต์อยู่ด้วยกัน บรรยากาศตอนนั้นช่วฃแรกๆ มันแย่เลย เรามองหน้าหลาน เราร้องไห้ทุกครั้ง จนให้เขาไปอยู่กับคุณแม่ที่ภาคใต้ ตอนนั้นพี่ภูมิยังไม่เสีย เรสก็ไปเยี่ยมพี่เตย พี่แมน แล้วก็ไปหาพี่ภูมิที่โรงพยาบาล แฟนไม่ได้สติอยู่เกือบ 2 อาทิตย์ ที่เราวิ่งๆ อยู่อย่างนั้น เรารู้สึกว่าถ้าเรามีหลานอยู่ด้วยที่บ้าน เราคงไม่ไหว ต้องดูแลหลาน เราเลยฝากเขาไปที่นู้น ก็พอเขากลับมา แฟนเสียแล้ว เราเลยเหมือนมีมิชชั่นว่าต้องดูแลเขา เราก็ทุ่มเททั้งกายและใจดูแลเขาให้เต็มที่ ไม่ให้เขาขาดเลย

 

ลุกซ์ไปเยี่ยมใบเตยทุกวัน ไปเยี่ยมพี่แมนทุกวัน?

ลุกซ์ : ใช่

 

ณ ตอนที่ลุกซ์ไปเยี่ยมพี่แมน พี่แมนเป็นยังไงบ้าง?

ลุกซ์ : ไม่ได้ถือว่าแฮปปี้อะไร คนอยู่ในนั้นก็เศร้าอยู่แล้ว

 

นอกเหนือจากเราค้นพบตัวเองว่าเป็นโรคซึมเศร้า ใบเตยก็เป็น?

ลุกซ์ : พี่เตยตั้งแต่เขาอยู่ในเรือนจำ ต้องได้รับการบำบัดอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ในนั้นได้รับการบำบัดอยู่แล้วของทุกๆ คน ลุกซ์ไม่แน่ใจว่าเป็นเลเวลไหน เพราะว่าเรารักษากันคนละเคส เท่าที่ทราบเลยคือไม่เหมือนกัน

 

ตอนนี้ได้กลับมาเจอน้อง กอดลูก ดีขึ้นไหม?

ลุกซ์ : ดีขึ้นเยอะเลย พี่เตยดีขึ้นมากๆ เลย

 

ใบเตยอยู่ในนั้นทั้งหมดกี่เดือน?

ลุกซ์ : เกือบ 7 เดือน

 

อันนี้เรียกว่าปล่อยตัวช้่วคราว แล้วเรื่องอื่นๆ ที่ต้องกลับไปสู้กัน เริ่มเมื่อไหร่?

ลุกซ์ : รู้สึกว่าจะเริ่มพิจารณาคดีเดือนกรกฎาคม ช่วงนี้ก็ทำมาหากิน

 

วันที่ถึงบ้านวันแรก โมเมนต์นั้นเป็นยังไงบ้าง?

ลุกซ์ : ต้องเล่าก่อน วันนั้นลุกซ์ตกใจมากนะ คือเราไม่ได้รู้มาก่อนว่าเขาจะมีคำสั่งปล่อยตัว วันที่เราได้ยิน ได้ฟัง ท่านพิจารณาว่าให้ปล่อยตัว คือเราทรุดลงไปกับพื้นเลย ตกใจมาก ทั้งดีใจและตกใจ เราไม่ได้เตรียมตัวเลยว่าแบบวันนี้เราจะได้รับกลับมา เราทำอะไรไม่ถูก งงๆ มันจะมีข่าวว่าเราเอารถเบนซ์ไปรับใช่ไหม วันนั้นลุกซ์เบลอทุกอย่าง งงมากเลย คนที่ลุกซ์โทรหาคือเพื่อนที่เป็นช่างแต่งหน้าให้ไปช่วยไปรับ ไปรอที่เรือนจำ ไม่ได้คุยกันเลยว่าจะเป็นรถคันไหน แล้วไม่ใช่รถของบ้านเราด้วย เพราะเราไม่มีคนช่วยอะไรด้วย เราถือว่าเบลอ ก็เลยกลายเป็นแบบนั้นไป มันเป็นรถเพื่อน

ลุกซ์ ชาญวิทย์

คนก็เลยคิดว่าเตรียมตัวไว้แล้ว ออกมาก็มีรถเบนซ์ไปรับ?

ลุกซ์ : ไม่เลย ตอนนั้นคือใครสะดงกช่วยหน่อย

 

ตอนนั้นเวทมนต์ก็ไม่รู้ว่าคุณแม่จะกลับมา?

ลุกซ์ : ไม่รู้ ทุกคนไม่มีใครรู้เลย เพื่อนๆ ที่ไปที่บ้านรู้ข่าวพร้อมกันหมดเลย แล้วพร้อมใจกันมาที่บ้าน

 

โมเมนต์แรกที่ลุกซ์ได้เจอพี่เตย?

ลุกซ์ : ลุกซ์อาจจะไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรมากขนาดนั้น เพราะลุกซ์ไปหาเขาทุกวัน แล้วโมเมนต์ที่ฟัง เราก็ยืนฟังอยู่ข้างกันเลย ตอนนั้นเราดาวน์สุดๆ ไปตรงนั้นแล้ว เราช็อกสุดๆ ไปตรงนั้นแล้ว เราดีใจสุดๆ ไปตรงนั้นแล้ว โมเมนต์ที่เหลือคือทำหน้าที่ต่อ 1-2-3-4-5  ชีวิตอยู่กับความเสียใจ ความดีใจได้แค่เสี้ยววิจริงๆ แล้วต้องไปต่อ

 

บรรยากาศตอนที่ใบเตยถึงบ้านแล้วเจอเวทมนต์?

ลุกซ์ : คือพี่เตยหนัก หลานเขาเด็ก เขาไม่ค่อยรู้หรอก โอเคแม่กลับมา แต่พี่เตยจะหนัก เหมือนทั้งชีวิตเขาคือตรงนั้นเลย เหมือนรอบข้างตรงนั้นดับไปหมดเลยนะ ยิ่งตัวลุกซ์เองยังรู้สึกเลยนะ มันเป็นโมเมนต์ที่หูดับ เราไม่ไปยุ่งตรงนั้นให้เป็นโมเมนต์ของแม่กับลูกเลย ที่เราเห็นแล้วทุกคนอิ่มเอมไปพร้อมๆ กัน

 

เขาพูดอะไรกับลูกเป็นประโยคแรก?

ลุกซ์ : แม่กลับมาแล้วนะ แล้วก็ร้องไห้

ลุกซ์ ชาญวิทย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หยุดยิ้มไม่ได้ ! น้องชายซุปตาร์ลูกทุ่งเปิดตัวหวานใจน่ารักมาก

น้องชายคนเก่งของ “ใบเตย” โผล่แจมถ่ายแฟชั่นแบรนด์ดัง

“ลุกซ์ ชาญวิทย์” น้องชาย “ใบเตย” ลาสิกขาแล้ว! หลังจากนี้จะใช้ชีวิต เพื่อตัวเองและคนที่รักเราอย่างเต็มที่

เปิดใจ “ลุกซ์ ชาญวิทย์” ป่วยซึมเศร้าหลังเจอมรสุมครอบครัว เผยคำพูดสุดซึ้ง “น้องเวทมนต์” ถึง “พ่อแมน”

 “ลุกซ์” รีวิวครบ 1 เดือนหลังจาก “ใบเตย” กลับมาอยู่บ้าน .. รับตัวเองเงินหมดในอีก 3 เดือนจำเป็นที่ต้องให้ “พี่เตย”มาทำงาน

“ลุกซ์” ขอโทษ “น้องเวทย์มนต์” เป็นน้าที่ดูแลหลานไม่ดี เหตุป่วยบ่อยจนเข้าโรงพยาบาล

 “ลุกซ์ ชาญวิทย์” เปิดแชทสุดเศร้าถึงแฟนหนุ่มผู้ล่วงลับ หวังเดือนหน้า "ใบเตย" จะได้กลับบ้าน

Comments