“แตงโม” ได้รับความเป็นธรรมเพียงพอหรือยัง
จบไปบทหนึ่งสำหรับคดี “แตงโม นิดา” โดยแม่ของแตงโมได้รับเงินไกล่เกลี่ยดังที่เป็นข่าว ทว่าในหมู่ทนายความเช่นทนายตั้มษิทราก็ออกมาแสดงความเห็นไปแล้วว่าแตงโมได้รับความเป็นธรรมเพียงแค่นี้จริงๆ เหรอ
อ่านต่อ:ลงตัวคดี “แตงโม นิดา” ตกลงกันได้ทั้งแพ่งและอาญา | daradaily
ด้าน “สาคร ศิริชัย” ทนายความ เผยถึงกรณีที่จำเลยในคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” ยินยอมชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนความเสียหายแก่คุณแม่ “ภนิดา” เป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท และชำระเป็นรายเดือนอีกเดือนละ 30,000 บาทมีกำหนด 20 ปีหรือจนกว่าคุณแม่ภนิดาจะเสียชีวิต
โดยคุณแม่ “ภนิดา” ยินยอมถอนคำร้องขอเป็นโจทย์ร่วมกับพนักงานเอกการและไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งนั้น
กรณีดังกล่าวมองว่าเป็นเรื่องที่พอสมควรแก่กรณีแล้วเพราะเพราะเป็นเรื่องที่จำเลยในคดีอาญาสำนึกผิดในการกระทำและมีการบรรเทาผลร้ายโดยมีการชดใช้ค่าสินใหมทดแทนความเสียหายให้แก่ผู้เสียหายตามกฏหมาย
โดยเงิน จำนวนนั้นก็มีจำนวนที่เหมาะสมตามสมควรแก่กรณีไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปและถือเป็นสิทธิของคุณแม่ที่จะรับไว้เพราะถือเป็นผู้บุพการีซึ่งเป็นผู้เสียหายกฎหมายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว และได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการเสียชีวิตของลูกสาวตนเอง ไม่มีใครไปก้าวล่วงการตัดสินใจได้กรณีดังกล่าวไม่ต่างจากกรณีการชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนความเสียหายให้แก่ผู้เสียชีวิตจากกรณีการกระทำโดยประมาทในคดีอื่นๆเช่นคดีอุบัติเหตุรถชนหลายหลายคดี
ส่วนกรณีว่าจะเป็นธรรมกับแตงโมซึ่งเสียชีวิตไปแล้วหรือไม่นั้นแล้วแต่มุมมองของแต่ละบุคคลถ้าคุณแม่ไม่รับเงินจำนวนดังกล่าวแล้วดันคดีไปจนสุดซอย คุณแม่ก็คงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในการยังชีพต่อไป ใครจะรับผิดชอบดูแล นอกจากนี้จำเลยในคดีดังกล่าวก็มีสิทธิ์ที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปวางต่อศาลเพื่อชำระหนี้ในการบรรเทาผลร้ายซึ่งผลคดีก็จะไม่ได้แตกต่างกัน
ตามความเห็นส่วนตัวท้ายที่สุดแล้วคดีนี้มองว่าจำเลยที่วางเงินต่อศาลจะให้การรับสารภาพต่อศาล โดยศาลอาจใช้ดุลพินิจลงโทษในสถานเบาและรอการลงโทษเนื่องจากมีการสำนึกผิดและบรรเทาผลร้ายตามที่กล่าวข้างต้น และคดีดังกล่าว ข้อเท็จจริงยุติแล้วว่า เป็นการกระทำโดยประมาทมิใช่กรณีฆาตกรรมทั้งนี้ ทั้งนั้นแล้วแต่ดุลยพินิจของศาล ต้องติดตามกันต่อไป