“โต๋ ศักดิ์สิทธิ์” ชี้แจงแล้ว หลังมีชื่อเป็นลูกทีม Forex 3D เผยยินดีให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่
เป็นคดีที่กำลังอยู่ในความสนใจขณะนี้ สำหรับเรื่องราวของคนวงการบันเทิงที่เริ่มค่อยๆโผล่รายชื่อมีเอี่ยวกับคดี Forex 3D ซึ่งล่าสุดเพจ “รวบรวมผู้โดนโกง จาก Forex 3D” ได้ออกมาเผยข้อมูลใหม่ว่ามีพระเอกช่อง 3 เป็นพ่อทีม Forex 3D ด้วย นั่นก็คือ “กระทิง ขุนณรงค์”
อ่านข่าว :"โต๋" ลงทุน 7 แสน ยันไม่ได้ชวนใครต่อ เผยไม่แจ้งความ เพราะอายที่ถูกหลอก
ต่อมาผู้ประกาศข่าวชื่อดัง “สรยุทธ” เล่าประเด็นข่าวดังกล่าวในเรื่องรายการเรื่องเล่าเช้านี้ และเผยว่าตนเองพูดคุยแล้วกับนักร้องหนุ่ม “ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์” ด้วย หลังจากมีชื่อเป็นหนึ่งในดาวน์ไลน์ Forex-3D
โดย“โต๋” เป็นลูกทีมของนักแสดงคนดังกล่าวและร่วมลงทุนจริง เป็นจำนวนเงิน 700,000 บาท แต่ไม่ได้มีการชักชวนใครต่อ ซึ่งตนรู้จักกับนักแสดงคนดังกล่าวจากกลุ่มบาสเกตบอล จึงมีการชักชวนตนให้ร่วมลงทุน ซึ่งช่วงแรกได้ผลตอบแทนปกติ แต่ก็ยังไม่ได้ทุนคืน และตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้เดินทางไปแจ้งความก็เป็นเพราะว่าอายที่โดนหลอก ยืนยันด้วยว่าไม่มีการจ่ายเงินปิดปากเพื่อไม่ให้ออกมาให้ข่าว
ล่าสุด “โต๋” ได้ออกมาชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ผ่านไอจีส่วนตัวว่า...
"ผมไม่ได้ชวนใครลงทุนต่อนะครับ" ตามที่มีข้อมูลปรากฎออกมาว่าผมเป็นผู้ลงทุนใน Forex3D ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้คือ เมื่อ 2561 รุ่นน้องนักแสดง ซึ่งเล่นบาสด้วยกัน ได้มาเล่าและแนะนำการลงทุนในตลาด Forex โดยบอกว่าเป็นรูปแบบใหม่ คือใช้ระบบ AI เทรดแทน ซึ่งได้ส่งเวปสำหรับเข้ามาให้ตัวเวปดูน่าเชื่อถือ และระบุว่าให้ผลตอบแทนประมาณ10% ใน 1-2 เดือน
ผมจึงได้ลงทุนไป 700,000 บาท โดยในช่วงแรกก็ได้ ผลตอบแทนกลับมาจริง จนกระทั่งเมื่อปี 2562 เริ่มมีปัญหาผลตอบแทนไม่ได้เหมือนเดิม เวปเข้าไม่ได้ และเริ่มมีประเด็นตามที่ปรากฎ ในข่าวผมไม่ได้ดำเนินการไปแจ้งความในตอนนั้น เพราะรู้สึกอายที่ตัวเอง โง่ หลงเชื่อว่ามีการลงทุนในรูปแบบนี้จริง ผมเข้าใจว่าเป็นการลงทุนอย่างเดียว ไม่ทราบว่ามี Upline, Downline จนเมื่อคืนมีข้อมูลปรากฎออกมา
อย่างที่ทุกคนเห็น ผมถึงได้ทราบว่าตัวเองกลายเป็นผู้ลงทุนในลักษณะลูกทีม แต่ก็อย่างข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา ผมไม่ได้ชวน ใครลงทุนต่อ ซึ่ง Downline ของผม
เป็น 0(ต่อหน้า 2)
อย่างที่บอกข้างต้น ผมได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว ไม่ได้รับผลประโยชน์ในส่วนอื่น ผลตอบแทนที่ได้มา ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมกับเงินที่ลงทุนไป และไม่ได้มีใครมาจ่ายเงินปิดปากผมไม่ให้พูด ตามที่ติดตามข้อมูลของ DSI กรณีเป็นผู้เสียหายมีได้อย่างเดียว คือไม่ได้ชักชวนผู้อื่นต่อ ซึ่งผมมั่นใจว่าผมอยู่ในกลุ่มนี้ และหากทางเจ้าหน้าที่ติดต่อมา ผมยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ครับ
บทเรียนครั้งนี้สอนให้ผมเรียนรู้ว่า การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าหลงเชื่อและลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้ครับ”