“ซันนี่” พร้อม Seiko ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติพร้อมคืนความสวยงามกลับสู่ท้องทะเลไทยในโครงการ Seiko Save The Ocean ครั้งที่ 5
Seiko (ไซโก) เดินหน้าสานต่อโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติแบบยั่งยืนเพื่อชุมชนท้องถิ่น เพื่อปลูกจิตสำนึกและคืนความสวยงามให้กับท้องทะเล ภายใต้โครงการ Seiko “Save The Ocean” ครั้งที่ 5 ร่วมฟื้นฟูท้องทะเลไทยที่จังหวัดภูเก็ต นำทีมโดยแบรนด์แอมบาสเดอร์ นาฬิกาไซโก อย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ฮิโรยูคิ อะกาชิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่, วิเชษฐ์ ชูเชื้อ กรรมการผู้จัดการบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (ทุ่งสง), แม็กซ์-ณัฐวุฒิ เจนมานะ และเหล่าคนรักนาฬิกาไซโก ได้ร่วมมือกับชาวบ้านชุมชนชาวแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ร่วมกันทำ
โครงการบ้านปลา เพื่ออนุบาลสัตว์ทะเลที่บริเวณอ่าวซันไรส์ พร้อมจัดทำแนวปะการังเทียมระยะทางกว่า 10 เมตร เพื่อนำไปหย่อนลงบริเวณอ่าวเปลว ในแถบหมู่เกาะพีพี เป็นการสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลรวมถึงเป็นที่ยึดเกาะของปะการังจริง เพื่อสร้างความสมดุลให้กับท้องทะเลในระยะยาว โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรอย่าง บริษัท SCG จำกัด มหาชน ที่ร่วมสนับสนุนปะการังเทียมที่ผลิตจากนวัตกรรมใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลเพิ่มเติมให้กับโครงการ รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของกรมอุทธยาน หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อีกด้วย
ในปี 2022 นี้ Seiko “Save The Ocean” นับเป็นปีที่ 5 อย่างเป็นทางการที่ได้ร่วมสนับสนุน ฟื้นฟูcและอนุรักษ์ท้องทะเลไทย โดยทำกิจกรรมคืนความสวยงามสู่ท้องทะเลจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่ความจริงจังและวิธีการที่เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Seiko นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกา Seiko Prospex มาจัดทำโครงการดีๆ เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ท้องทะเลไทยในทุกๆปี โดยโครงการ “Save The Ocean” ได้จัดทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้แล้วถึงสี่ครั้งทั้งในแถบ หมู่เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต, เกาะกระดาน จังหวัดตรัง และ บริเวณอ่าวท่าเลน จังหวัดกระบี่
ชุมชนชาวแหลมตุ๊กแก แถบหมู่เกาะสิเหร่ เป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีอาชีพประมงเป็นหลัก โดยทางไซโก ได้ร่วมสนับสนุนชุมชน ในการสร้างบ้านปลา เพื่ออนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็กในบริเวณอ่าวซันไรส์ที่ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งจับสัตว์น้ำเพื่อประกอบอาชีพ จำนวนกว่า 10 หลัง เพื่อเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนในการสร้างอาชีพ โดยมีชาวบ้านและคณะ มาร่วมแสดงศิลปะพื้นเมืองของภาคใต้อย่าง “รองเง็ง” ในวันแถลงข่าวและร่วมกันทำบ้านปลาอีกด้วย
จังหวัดภูเก็ตขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติทางทะเลที่สมบูรณ์ของประเทศไทย และมีเกาะมากมายที่สวยงามระดับโลก โดยเฉพาะหมู่เกาะพีพี ซึ่งแน่นอนว่าความสวยงามของสถานที่นั้นนอกจากจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก คงหนีไม่พ้นมลพิษทางทะเลทั้งขยะและการทำลายแนวปะการังจากเรือท่องเที่ยวรวมถึงนักดำน้ำ โดยครั้งนี้ ไซโก ได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี ในการเสริมสร้างแนวปะการังเทียมเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟูปะการังเดิมที่ถูกทำลายไป และเพื่อเปลี่ยนแปลงธรรมชาติให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง โดยปะการังเทียมทั้งหมดนี้ถูกผลิตขึ้นจากซีเมนต์พิเศษขึ้นรูปโดยการใช้เทคโนโลยี 3D Printing
ปะการังเทียมที่ใช้ในการปล่อยลงสู่ทะเลในครั้งนี้ มีแบบสวยงามเสมือนปะการังจริงกลมกลืนไปกับธรรมชาติ โดยวัสดุที่ใช้ผลิตจากปูนนั้นเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล โดยทาง SCG พัฒนาแบบพื้นผิวให้เหมาะสมกับการยึดเกาะตัวอ่อนปะการังและดีไซน์ให้โครงสร้างมีความซับซ้อนเพื่อให้เหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิตเข้าไปอยู่อาศัย พร้อมช่วยฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลได้อย่างยั่งยืนและยาวนาน เพราะความสวยงามใต้ท้องทะเลและความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามและยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ Seiko
“Save The Ocean” จะเป็นโครงการเล็กๆที่ก่อให้เกิดประโยชน์ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนและท้องทะเลต่อไป