เปิดกลยุทธ์ 3plus อนาคตของสื่อบันเทิง 

เปิดกลยุทธ์ 3plus อนาคตของสื่อบันเทิง 

0

เปิดกลยุทธ์ 3plus อนาคตของสื่อบันเทิง “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์” กรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์ บมจ. บีอีซี เวิลด์ ผู้บริหารไทยทีวีสีช่อง 3
       สื่อทีวีในอนาคตกำลังปรับตัวอย่างรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีส่ผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค และส่งผลต่อผู้ผลิตคอนเทนท์ด้วย 

อ่านต่อ:ช่อง 3 เปิดตัว “CH3Plus Premium” ความบันเทิงต่อเนื่องกว่า ...

 

สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์

สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์


       ดาราเดลี่ได้เปิดใจสัมภาษณ์  “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์”   กรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์ บมจ. บีอีซี เวิลด์ ผู้บริหารไทยทีวีสีช่อง 3  ถึงกลยุทธ์ ทิศทางของ 3plus แอพพลิเคชั่นสื่อ ที่เปิดตัวมาได้พักหนึ่ง เพื่อลงสนามแข่งขันกับแอพสื่อต่างชาติที่หลากหลายมากมายในเวลานี้ 
Q++ภาพของ 3 Plus ในปีนี้จะเป็นยังไง เน้นเรื่องของคอนเทนต์ เน้นสมาชิก หรือว่าจะเน้นเรื่องอะไรในปีนี้ครับ ?
- ผมขออนุญาตเท้าความนิดหนึ่งนะครับ ตัว 3 Plus ของเราจริง ๆ แล้วเรามองว่ามันเป็นอนาคตของ BEC World เลยนะครับ ในขณะที่โลกของเราก้าวไปข้างหน้า คนก็มีพฤติกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงในการเสพคอนเทนต์ที่อยู่ในทีวี เราก็จำเป็นที่จะต้องเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ แต่ว่าแต่งเติมให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้มันดูน่าสนใจกว่าที่จะอยู่แค่ในทีวี ก็เลยเป็นที่มาของ 3 Plus นะครับ โดยความมุ่งหวังของเราต้องการที่จะให้เป็นอนาคตของ BEC World ในปัจจุบันนี้เราคงจะเถียงไม่ได้ว่าเราก้าวเข้ามาสู่โลก Digital Disruption 
         เราเองก็ทราบว่าคนอาจจะดูทีวีน้อยลง แต่ว่าคนมีช่องทางในการดูรายการเยอะขึ้น เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าคอนเทนต์เดิมที่เคยมีคนเสพทางทีวีสมัยก่อนอาจจะเรียกว่าเยอะแต่ปัจจุบันก็น้อยลง ในปัจจุบันก็สะท้อนให้เห็นในเรทติ้ง เช่น ละครที่มันฮิตในปัจจุบันเรทติ้งก็ไม่ปังเหมือนสมัยก่อน แต่ถ้าเราไปดูกระแสจะเห็นว่าละครในปัจจุบันนี้กระแสค่อนข้างที่จะดีมาก ผมคิดว่ามันเห็นได้ชัดว่าตัวเรตติ้งของรายการทีวีของเรามันต่ำลง แต่ว่ารายการได้รับความนิยมมากขึ้นมีกระแสมากขึ้น ก็กลายเป็นว่าคนไปรับชมในช่องทางต่าง ๆ มากขึ้น ตัว 
Q++  3 Plus นี้เป็นตัวที่ตอบโจทย์เรื่องพฤติกรรมของคนดู 
       - เมื่อถามผมว่า 3 Plus มันมีจุดเด่นตรงไหน จุดเด่นที่เราเห็นได้ชัดเลยของ 3 Plus ก็จะเป็นในเรื่องของความเข้มแข็งของช่อง 3 ในอดีตที่เราเอามาใส่ใน 3 Plus เนื่องจากว่าเราไม่มีข้อจำกัดของเงื่อนไขทางด้านเวลาเราไม่จำเป็นที่จะต้องออกรายการให้เหมือนกับทีวีปกติ แต่สามาถดูกี่โมงได้ ช่อง 3 เราทำรายการทีวีมาประมาณ 50 กว่าปี ในทุก ๆ ปีเรามีจำนวนละครค่อนข้างมากละครหนึ่งเรื่องของเรา ผมคิดว่าอย่างน้อยก็ราว ๆ 20 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นเหมือนกับว่าเราจะสามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ เช่น ละครวัยที่ผมเริ่มทำงาน ผมก็ยังสามารถที่จะกลับไปดูได้ ผมคิดว่ามันมีเกิน 20,000 ชั่วโมง ที่เราเอาไปใส่ไว้ใน 3 Plus ให้มันเป็น On Demand ให้เข้ามาดูตอนไหนก็ได้ เค้าสามารถเลือกดูพระเอกนางเอกคนโปรดของเขาได้แค่ค้นหาก็เจอเพราะฉะนั้นมันเป็นแหล่งสำหรับคนที่ชอบดูละครช่อง 3 จริง ๆ และจะมีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับละคร เช่นอาจจะมีเรื่องของสเปเชียลคอนเทนต์ เรื่องของอันคัทเวอร์ชั่น 
       ละครในอดีตเราทำอะไรมากไม่ได้เพราะทุกอย่างมันออกหน้าจอทีวีแต่พอมา 3 Plus มันไม่มีลิมิตเราสามารถที่จะสร้างสรรค์อะไรหลายหลายอย่างให้คนที่เป็นแฟนละครตัวจริงเค้ามาอยู่ตรงนี้ ยกตัวอย่าง ตะลุยกองถ่าย อันคัทเวอร์ชั่น หรือว่าฉากที่เขาตัดทิ้งไปแล้วไม่ได้ออกในละคร หรือว่าสัมภาษณ์ดาราคนโปรด เพราะฉะนั้นมันดีมากสำหรับคนที่เป็นแฟนคลับของดาราแต่ละท่านที่จะเข้ามาดู จะเป็นสถานที่พิเศษโดยเจตนาอยากให้มันเป็นแบบนั้น แล้วจะมีอีกอย่างนึงที่เราเรียกว่าแฟนด้อม ใครที่เป็นแฟนคลับของคนไหนก็จะได้มีโอกาสมาดูตรงนี้ เราเปิดตัว 3 Plus ปีที่แล้วประมาณเดือนมีนาแต่เราโชคไม่ดีเราเปิดตัวท่ามกลางที่มีโควิด เพราะฉะนั้นตัวคอนเซ็ปท์ของ 3 Plus สิ่งที่การตลาดเขาวางแผนเอาไว้ ตอนนั้นก็คือว่าต้องการที่จะเอาอีเวนท์มาดึงสมาชิก 

สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์

3plus


Q++ตัว 3 Plus จะมีการรับสมาชิกอยู่ 2 แบบใช่ไหมครับ
       - 3 Plus จะมีอยู่ 2 ส่วน คือ A vod คือส่วนที่สมาชิกสามารถเลือกดูแบบที่จะไม่จ่ายเงิน แต่มีโฆษณาและไม่มีคลิปพิเศษ ส่วนที่ 2 คือ S vod  คือคนที่สมัครเป็นสมาชิกรายเดือนละ 79 บาท จะมีคลิปพิเศษและสามารถดูได้ทุกอย่างใน 3 Plus ปัจจุบันนี้ และตั้งแต่เริ่มต้นมีนาคมที่ปีแล้ว เรามีคนที่มาติดตามอยู่ประมาณ 3,400,000 คน และมีคนสมัครเป็นสมาชิกแบบจ่ายเงินประมาณ 40,000 ราย ปีที่ผ่านมาตัวเลขสมาชิกแบบจ่ายเงินยังต่ำกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ เราตั้งใจที่อยากจะได้จำนวนหลักแสน
         สาเหตุหลักที่เรายังทำไม่ได้เนื่องจากว่าเราตั้งกลยุทธ์หลักในการดึงสมาชิกไว้ว่าจะทำอีเวนท์ประมาณ 10 อีเวนท์ แต่เจอโควิดเข้าไปจัดได้แค่ 2 3 อีเวนท์ที่เหลือเราต้องยกเลิกหมดเลย เวลาที่เราจัดอีเวนท์ความแข็งแรงของเรามันก็น้อยลงเพราะว่าโควิดเราต้องดำเนินการทุกอย่างภายใต้เงินไขของทางราชการ เราจะไปเอาคนมาทำเยอะก็ไม่ได้ เราจะเอาคนดูเยอะก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นอีเวนท์ที่เราจัดเนี่ย ตัวอย่างเช่น เราจัดของ “กลัฟ” กลายเป็น Virtual Concert ก็ได้คนมาเป็นหมื่นแต่ว่าหลังจากของ “กลัฟ” แล้วทำให้เราไปต่อยาก เพราะว่าความปลอดภัยของตัวดาราที่ต้องมาจัด ถึงแม้จะเป็น Virtual ก็ยังรู้สึกว่าลำบาก เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่ได้จัดก็เลยเป็นเหตุว่าเราพลาดเรื่องของตัวเลขของสมาชิกที่ต้องมาสมัครแบบจ่ายเงิน นี่เป็นเรื่องของ 3 Plus ที่ผมอยากจะแชร์ให้ฟัง 

3plus

3plus

Q+++ 3 Plus มีอะไรอีก
          นอกจากว่าจะได้ดูละครของช่อง 3 แล้วก็ยังได้ดูมิวสิควิดีโอของละครช่อง 3เกือบจะทุกเรื่อง ปีหนึ่งละครช่องทำหลาย 10 เรื่องเพราะฉะนั้นเพลงก็จะมีหลาย 10 เพลง หลาย 10 ปีก็จะมีเพลงเป็น 1000 เพลง สามารถเข้าไปในคลังของมิวสิควิดีโอเพลงจากละครใน 3 Plus แล้วก็จะสามารถดูคอนเสิร์ตได้ ข้อดีก็คือความที่เป็นแอพพลิเคชั่นเว็บไซต์มันดูที่ไหนก็ได้ อยากจะดูเมื่อไหร่ก็ได้ มือถือจอคอมพิวเตอร์ ไอแพด มันคือความสะดวกที่เราคิดว่าเป็นจุดเด่นของ 3 Plus เวลาดูผ่านแอพพลิเคชั่นเราสามารถย่อจอและแชทได้ซึ่งมันต่างจากทีวีปัจจุบัน 
       และข้อดีอย่างหนึ่งคือเราได้ข้อมูลที่รวดเร็วและเป็นผลดีกับเราในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เรามีสมาชิกประมาณ 3,400,000 ผมคิดว่าตอนนี้ถือว่าเรามาไกลพอสมควร และเราอาจจะปรับปรุงเพราะว่ามันมี 2 ปัจจัย ปัจจัยแรกผมไม่สามารถทำอีเวนท์ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ปัจจัยที่สองก็คือว่าพอมีเหตุการณ์โควิดเกิดขึ้นตัวดารานักแสดงหลายท่านเขาก็มีครอบครัวบางคนก็มีลูกหรือพ่อแม่ที่แก่แล้ว จะให้เขาเข้ามาอยู่ในสตูดิโอเพื่อที่จะบันทึกคลิปให้กับแฟนคลับที่จ่ายเงินมันก็ลำบากเพราะว่าทุกคนอยู่ในช่วงของโควิดมันเป็นช่วงที่ทุกคนอันตราย เราก็เลยถือว่าเราเสียโอกาสตรงนั้นไป แล้วก็จริง ๆ แล้วเราดีไซน์ใน 3 Plus ให้แฟนคลับเข้ามาร่วมกิจกรรม คิดไปถึงเมื่อเปิดกล้อง หรืองานบวงสรวงตัวละคร หรือปิดกล้อง คนดูที่เป็นแฟนคลับเราอาจจะได้เห็น แต่ซึ่งเราก็ไม่ได้ทำเพราะว่าเจอโควิดคิดดูแล้วก็น่าเสียดายแต่อย่างแรกที่เราทำได้ คือเรื่องของแฟนด้อมการให้แฟนคลับมาซื้อหัวใจแล้วก็เอาไปโหวตดาราที่ชื่อชอบ เพื่อให้เขาเป็นดาราประจำเดือนประจำปี หรือเอาไปโหวตเพื่อให้ได้เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษกับสถานีจะได้มีโอกาสไปใกล้ชิดกับดาราที่ตัวเองชื่นชอบ ผมพูดมาเป็นสิ่งที่วางไว้ว่าจะทำปีนี้แต่ต้องดูว่าโควิดจะอยู่กับเรานานขนาดไหน

3plus

3plus

3plus

         Q++คุณสุรินทร์ครับ ปีนี้ตั้งใจให้ได้ยอดติดตามจำนวนเท่าไหร่ ยอดติดตามที่เป็น On Demand ?
- ผมตั้งเป้าในบริษัทอย่างมากเราต้องได้เป็นเลข 6 หลัก หรืออย่างน้อยต้องเป็นหลักแสน เรามีอยู่ตอนนี้หลายหมื่น ถามว่ามันลำบากไหมมันก็ท้าทาย มีปัจจัยภายนอกที่มาเป็นตัวกดเราอยู่ คือตัว A Watch แบบไม่จ่ายเงินไม่มีปัญหา แต่ว่าตัว S Watch ที่ต้องจ่ายเงิน อย่างที่เราทราบกันว่าคนไทยส่วนใหญ่ เรื่องจ่ายรายเดือนเป็นเรื่องใหญ่ ก็ถือว่าท้าทายแต่ว่าเราก็มั่นใจในคอนเทนต์และคอนเซ็ปท์ เวลาที่เราพูดถึงแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่งสัญชาติไทยที่เป็นแบบเรามีไม่เยอะ ต่อให้มีความแข็งแรงในการที่จะแข่งเราก็น้อยเพราะเรารู้สึกว่าเรามีพร้อมหมดเรามีพร้อมทั้ง ละครเก่า ละครใหม่ ละครที่กำลังทำ ดาราที่มีชื่อเสียง ผู้จัดที่มีชื่อเสียง เรามีความรู้สึกว่าเราแข็งแรงกว่าถ้าเอาไปเทียบกับสตรีมมิ่งของต่างประเทศ เช่น Netflix , Apple TV , Disney plus เราคิดว่าเราจับกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่มกัน ผมว่ากลุ่มพวกนั้นไม่ได้เป็นคู่แข่งของ 3 Plus แต่จะมาเสริมธุรกิจให้ช่อง 3 มันยากที่เราเห็นในทุกวันนี้คอนเทนต์หลายเรื่องของช่อง 3 ก็ไปโผล่ใน Netflix ไปโผล่ใน We TV บ้าง ไปโพอยู่ในแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ของต่างประเทศ

Q+++พอคอนเทนต์มาอยู่ในในสตรีมมิ่งแบบนี้เราวัดเรตติ้งกันผ่านยอดวิวใช่ไหมครับ ?
- ใช่ครับ เราก็จะเห็นฟีดแบคที่ค่อนข้างชัดเจนว่าคอนเทนต์ของเรามันดีหรือไม่ดี เพราะว่าเราเห็นจำนวนยอดวิวที่ชัดเจนและก็จะได้ข้อมูลจากคนดูรวดเร็ว อย่างที่ผมบอกเวลาที่เขาดูมันเป็น OTT Platform เพราะฉะนั้นมันสามารถโต้ตอบได้ ก็คือเขาสามารถคอมเมนต์ได้และเราก็ได้ข้อมูล ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเราต้องทำวิจัยหลังจากคอนเสิร์ตเสร็จ ปัจจุบันนี้การมี OTT Platform อย่างเช่น 3 Plus ของเราเป็นสิ่งที่ดีมากในการที่เราเข้าไปถึงข้อมูลจากลูกค้าที่เป็นแฟนคลับโดยตรงของสถานีของเราผ่านทาง 3 Plus 

Q++ก็แสดงว่า 3 Plus ก็คือเป็นแหล่งรวมของแฟนด้อม เป็นเครื่องมือของแฟนคลับที่ได้เจอกับดารา ?
- ถูกต้องครับ แล้วก็เป็นแหล่งที่ทำให้คนที่เค้าอยากจะดูละครย้อนหลังเลือกชมเลือกดูได้ทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องแรกก็มีอยู่ในแอพพลิเคชั่น ผมคิดว่ามันสะดวกมากเลยสำหรับพวกที่เป็นแฟนคลับ 3 Plus ก็จะเป็นสถานที่ที่ทำให้เขามีโอกาสได้ดูผลงานเก่า ๆ ของดาราที่เขาชื่นชอบ ไม่งั้นแฟนคลับก็ไม่สามารถดูได้นอกจากจะมารอดูช่อง 3 ตอนรีรันซึ่งไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

Q++คุณสุรินทร์ครับ ถ้าไตรมาสสองโควิดเบาลง เราจะได้เห็นอีเวนท์ไปกระตุ้นให้มีผู้ติดตามมากขึ้นไหม ?
- แน่นอนเลยครับ ถ้ามันมีโอกาสที่เราจะสามารถทำได้ซึ่งตอนนี้เราก็วางแผนเอาไว้ว่าเราจะทำ ในส่วนของภายในเราก็ไม่ได้รอให้เหตุการณ์มันสงบแล้วถึงจะวางแผนนะครับ เราวางแผนเอาไว้ ทีนี้ถ้าหากว่าเราไม่ได้ทำเนื่องจากเหตุการณ์มันไม่เอื้อเราก็ยืดมันออกไปเรื่อย ๆ เหมือนปีที่แล้วเราเลื่อนมันต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นปี แต่ว่าแพลนเราก็ต้องทำแบบนี้ ใน 3 Plus ไม่ได้มีแค่เรื่องของไทยอย่างเดียว มีทั้งซีรี่ย์ต่างประเทศแล้วก็มีซีรี่ย์อื่น ๆ ที่ออกในซ่อง 3 ที่ไม่ใช่เฉพาะละครนะครับ เช่นตอนนี้เรามีละครซีรี่ย์วายทางช่อง 3 ก็เอามาไว้ใน 3 Plus เช่น ซีรี่ย์วายเรื่องผมกับผีในห้อง ก็เป็นซีรี่ย์ที่มีกระแสมาตลอด พอดูจบในช่อง 3 ก็จะมาอยู่ใน 3 Plus 
และจะได้ดูเวอร์ชั่นที่ไม่เหมือนในช่อง 3 ด้วยนะครับ แต่ถ้าไม่ได้จ่ายเงินเป็นสมาชิกเป็น S Watch ก็จะได้ดูเหมือนกับที่ออกอากาศในช่อง 3 แต่ถ้าคุณจ่ายเงินเป็นสมาชิก S Watch คุณก็จะได้ดูเวอร์ชั่นที่ไม่เหมือนช่อง 3 พูดง่าย ๆ ซีรี่ย์วายที่ออกหน้าจอช่อง 3 มันอาจจะมีแค่ตอนคู่เอกจับมือกัน แต่ถ้าจ่ายเงินอาจจะได้ดูมากกว่านั้น มีภาพนิ่งหรือคลิปที่ตัดมาประมาณ 10 นาทีเพราะฉะนั้น S Watch เหมาะกับคนที่เป็นแฟนคลับตัวจริง

       Q++ ดูจากสถานการณ์แล้วปีนี้โควิดน่าจะดีขึ้นนะครับ ?
- ปีนี้ก็หวังว่านะครับผมรู้สึกว่าคนกลัวน้อยลงหรือว่าเบื่อแล้วก็ไม่รู้ ผมยังกลัวเท่าเดิมแต่เบื่อมากกว่า

3plus

3plus

       Q++ อยากให้คุณสุรินทร์สรุป 3 Plus จะตอบสนองกลุ่มเป้าหมายหรือไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ยังไงครับ ?
- คืออย่างที่ผมเรียนมาครับ 3 Plus เป็นแอพพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเซอร์วิดซ์ แต่ความหมายของผมมันคือทีวีทุกที คือช่อง 3 ที่อยู่กับคุณทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนคุณจะสามารถดูได้ตลอดเวลา ดูข่าวก็ได้เพราะเรามีย้อนหลัง คุณอยากจะดูซีรี่ย์ต่างประเทศหรือว่าชอบละครไทยก็มีประมาณหมื่นชั่วโมงอยู่ในนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ที่ผมคิดว่าเป็นสถานที่สำหรับแฟนคลับตัวจริง จะได้เจอกับศิลปินและเรามีศิลปินเยอะมาก ช่อง 3 อย่างเดียวไม่สามารถเปิดโอกาสให้เราทำแบบนี้ได้โดยลักษณะของความเป็นทีวี แต่ 3 Plus เป็นการเตรียมพร้อมของ BEC World ในการที่จะก้าวเข้าไปสู่โลกข้างหน้าและพร้อมที่จะรับมือกับพฤติกรรมของคนดูที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีที่พัฒนา จริง ๆ แล้วผมอยากจะบอกว่า 3 Plus เป็นภาพที่คมชัดมากไม่ว่าจะดูผ่าน iOS และ Android คุณภาพคมชัดและผมคิดว่าเวลาเราดูดาราดูความสวยดูความหล่อคนดูผ่านความคมชัดเป็นพิเศษแบบนี้ ผมคิดว่าคุณจะมีความสุขในการรับชมนะครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments