เปิดความรู้สึก “ปอ อรรณพ” หลังร่วมแข่งรายการ “Masterchef Celebrity Thailand SS2”

เปิดความรู้สึก “ปอ อรรณพ” หลังร่วมแข่งรายการ “Masterchef Celebrity Thailand SS2”

          ออกอาอากาศให้แฟนๆได้ติดตามชมกันไปแล้ว 1 EP เรียกว่าสนุกสนานเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ “Masterchef Celebrity Thailand SS2” ที่ครั้งนี้ขนทัพนักแสดงและคนในวงการมาร่วมแข่งขันชิงเงินรางวัลเพื่อบริจาคให้กับมูลนิธิกันเช่นเคย ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา 1 ในผู้เข้าแข่งขันอย่างหนุ่มหล่ออารมณ์ดีอย่าง “ปอ อรรณพ” ก็ถือว่าสร้างความเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมากหลังสามารถคว้าอาหารที่ดีที่สุดไปครอง ล่าสุดทีมข่าวบันเทิงของเราได้เปิดใจพร้อมสัมภาษณ์ความรู้สึกของ “หนุ่มปอ” มาฝากกันโดยเจ้าตัวเผยว่า

อ่านข่าวต่อ : “ปอ อรรณพ” ตอบชัดความสัมพันธ์ “แพท ณปภา” สนิทกันมากแค่ไหน?

          ตอนนี้เหมือนโลกเปลี่ยนเลย กลับบ้านไปต้องหาเมนูมาทำ เพราะรายการมาสเตอร์เชฟ ดาราก็คงช่วยกันเองแหละ เพราะเราไม่ใช่เชฟตัวจริง แต่พอไปถึงนี่มันของจริง ไม่มีการบอกเลย ไม่มีการต่อเวลาให้ตามที่เห็นในรายการเลย ตอนแรกเครียดเหมือนกันว่าเราจะรอดมั้ย แต่พอไปแข่งเราได้ซ้อมฝึกบ่อยๆ มันทำให้เกิดสิ่งที่เรารักขึ้นมาตอนนี้ก็เลยอินมาก กับการทำอาหาร อยากเปิดร้านอาหาร อยากเป็นเชฟเลย เชื่อว่าหลายๆคนยังไม่เห็นมุมนี้ของเรา จะงงว่าเราทำอาหารเป็นด้วยหรอ ซึ่งถ้าคนที่สนิทและก็คนที่บ้านจะรู้ว่าชอบทำอาหารประจำอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินมาร่วมรายการ พอมารายการเราเองก็ต้องฝึกเพิ่ม ไปเรียน จ้างเชฟมาสอนเพราะไปมาสเตอร์เชฟ มันก็ต้องเป็นอาหารที่มากกว่าปกตินิดนึง ทุกอย่างที่เห็นคือเราฝึกหนักจริงๆ 

          เพื่อนๆในทีมแต่ละคนน่ารักมากๆ ถามว่ากลัวใครจริงๆแต่ละคนน่ากลัวนะ แต่ที่รู้สึกว่าเขาทำเก่งมากน่าจะเป็น “พี่ธันวา สุริยจักร” พี่ “แกงส้ม ธนทัต” ดูลักษณะการทำแล้ว ไม่ลนดูมีสติ มาดูตัวเองแล้วกดดันมากๆกลับมาบ้านก็ต้องซ้อมทำอาหารตามเชฟต่างๆ วีคที่ผ่านมาได้เป็นอาหารจานที่ดีที่สุด ในรายการที่ตัดต่อออกมาคือจะมีแต่คำชม แต่จริงๆก็จะมีแนะนำว่าข้อไหนควรจะไปปรับปรุง ซึ่งเชฟก็จะบอกตรงๆ ซึ่งเราก็จะได้ความรู้เพิ่มว่าเราควรจะพัฒนาตรงไหน ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ติดตามเชียร์อยากจะดูไปอีกสักนิดนึงออกไปเทปแรกก็ยังวัดไม่ได้ เพราะแต่คนจะมีสิ่งที่ถนัดไม่เหมือนกัน สุดท้ายทุกคนจะเอาตัวรอดมั้ย แน่นอนว่ามาแข่งก็ต้องหวังชนะแล้ว ผ่านไปแต่ละโจทย์ยากมากๆ ต้องติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วย 

          ส่วนถ้าชนะมอบ 1 ล้านบาทมอบให้ “มูลนิธิสันติสุข” เพราะเกี่ยวกับเด็ก เกี่ยวกับการศึกษาจริงๆแล้วเรารู้สึกว่า ประเทศของเราการเข้าถึงการศึกษาอาจจะยังไม่เท่าเทียม บางคนอาจจะต้องออกไปทำงานก่อนที่จะได้เรียนในสิ่งที่ชอบ ในเมื่อแก้ไขปัญหาตรงนี้ยังไม่ได้ เงินที่เราได้รับรางวัลก็ไปช่วยน้องๆที่เขามีความฝัน คนที่อยากจะเรียนจริงๆ ก็เลยเลือก “มูลนิธิสันติสุข” ครับ แย้มสัปดาห์หน้าพีคมาก ไส้ว่ายากแล้ว เจอวีคต่อไปโหดมากครับ ฝากเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันทุกๆคนด้วย