“อีฟ พุทธธิดา” พิษโควิดถาโถมต้องปิดร้านพยุงลูกน้อง 2
สืบเนี่องจากสัมภาษณ์พิเศษ “อีฟ พุทธธิดา” ตอนแรกว่าด้วย “อาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา” ฝ่าวิกฤตืโควิด19 มาถึงตอนสองซึ่งเป็นตอนจบว่าด้วยสามีที่ติดโควิด19 เชื้อลงปอดแต่ก็รักษาได้จนหาย
“อีฟ พุทธธิดา” ได้เล่าชีวิตนอกจากเรื่องสุขภาพร่างกายที่ต้องสู้แล้ว เศรษฐกิจก็ถาโถมเข้ามา ลองฟังเธอเล่าเรื่องชีวิตในยุคโควิด
อ่านข่าวต่อ:นาทีชีวิต “อีฟ พุทธธิดา” เล่าเรื่อง “อาต้อย” กว่าจะผ่านวิกฤต
ดาราเดลี่ : คราวก่อนเล่าเรื่องคุณแม่ทานสมุนไพรที่อีฟผลิต ทราบว่าสามีก็มีเชื้อลงปอดก็ได้รับยาตัวนี้ด้วย
อีฟ พุทธธิดา : ส่วนสามีอีฟเนี่ย เค้าก็เป็นลงปอด ลงปอดเยอะเลยนะคะลงปอดตั้ง 30% แต่ตอนนี้หายแล้ว 100% เพราะว่าหลังจากที่ออกจากการกักตัวอะค่ะ หมอก็บอกว่าเราต้องใช้เวลาในการรักษาปอดระยะเวลาค่อนข้างนาน คือหมายความว่ากว่าปอดมันจะหายเป็นปกติก็ใช้เวลานาน ซึ่งตอนเนี่ยของสามีอีฟเนี่ยหายแล้ว 100% คือไม่มีร่องรอยของโควิดแล้วด้วยซ้ำ
อันนี้ก็คิดว่ามันก็คงมาจากตัวยาที่ช่วยฟื้นฟูปอดด้วย แล้วก็มีคนที่เอาไปทานแล้วเค้าก็ได้ผลดีเหมือนกันอะค่ะ ก็คืออย่างบ้านเพื่อนอีฟที่เอาไปทานเนี่ย เค้าก็กินกันมาก่อนแล้วก็แม่บ้านของเค้าเนี่ยติดโดวิด ติดจากสามีแล้วก้เอาเข้ามาในบ้านเพราะว่าไปกลับนะคะ แม่บ้านไปกลับก้พอเอาเข้ามาในบ้านเนี่ยเค้ามีคุณพ่อที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วยก็กังวลว่าจะติดแต่ปรากฏว่าในบ้านก็ไม่มีใครติด
ดาราเดลี่ : สุดท้าย ตอนนี้บางคนหาเตียงอยู่ บางคนก็อยู่บ้านต้องกินยาเอง เค้าเรียกว่า Home Solution เค้าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง
อีฟ พุทธธิดา : อีฟพูดอย่างงี้แล้วกันค่ะ คือภาวะเนี่ยมันเหมือนกับเวลาเราเจอใครที่แบบใหญ่ ๆ ของประเทศเราอะ เหมือนเราเจออะไรก็แล้วแต่ คือคนไทยผ่านมาได้ด้วยการช่วยเหลือกันอีฟมองอย่างนั้นนะ แล้วก็จริง ๆ กำลังใจของคนไทยเนี่ยคือคนไทยมีจิตใจที่แข็งแกร่ง แล้วก็มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อคืออีฟเองอะอีฟก็จะเป็นแล้ว ในบ้านพ่อเป็นโรคประจำตัว มีลูกเล็ก อีฟเชื่อว่าหลังบ้านเป็นแบบนี้นะคะ ต้อง Home Solution สำหรับอีฟเนี่ยมันจะต้องมองว่า เอ้ย อยู่ Hospitel รึเปล่า อีฟอธิบายอย่างงี้แล้วกัน ต้องดูว่าหลัก ๆ เลยอะค่ะ เราต้องรู้อาการตัวเองเราต้องสังเกตอาการตัวเองแล้วจดทุกวัน
ตอนอีฟเป็นอีฟจดทุกวันเลยค่ะ คือจดละเอียดทุกวันถึงมีข้อมูลได้ อีฟจดทุกวันเพราะอีฟอยากรู้ว่าโรคเนี่ยกับตัวเราเองมันพัฒนาไปยังไง มีอาการยังไงรับมือกับมันอย่างไร แล้วอีฟถึงเอาข้อมูลเนี่ยมาให้คนอื่นได้นะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ยสิ่งสำคัญก็คือเราต้องคอยสังเกตอาการตัวเอง
ถ้ามันหนักขึ้นเราต้องแจ้งกับแพทย์ที่รับผิดชอบเรา อย่าง Home Solution เค้าก็มีศูนย์ประสานงานค่อยติดต่อ เราต้องคอยสังเกตตัวเองอย่างนี้ก็เป็นการช่วยเหลือตัวเอง ส่วนในเรื่องของตัวช่วยต่าง ๆ ก็อย่างที่อีฟบอกค่อนข้างจะโชคดีก็คือมีสมุนไพรเป็นทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นฟ้าทะลายโจรหรือจะเป็นตัวยาที่อีฟทานหรืออะไรก็แล้วแต่ คนไทยเนี่ยค่อนข้างโชคดีไม่ใช่ทุกที่หรอกที่เค้าจะมีตัวช่วยแบบเรา บางที่เค้าก็ยังมีสมุนไพรแต่เค้าปลูกไม่ได้อยู่ในที่อากาศหนาวอย่างงี้ก็มี เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็พยายามช่วยตัวเองนะคะส่วนนึง แล้วก็ติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ความช่วยเหลือเค้าจะดูแลเราอย่างไร
คุณหมอโรงพยาบาลเองเนี่ยเราก็คอยประสานงานเค้าอันนี้ก็คือในสิ่งที่เคยทำมานะคะ แล้วก็ในเรื่องของเศรษฐกิจ ธุรกิจ อีฟเชื่อ่าแย่กันทุกคน อีฟเองเนี่ยละครก็ถ่ายไม่ได้ตอนนี้กองก็ปิด พนักงาน ทีมงานเนี่ย เป็นสิบเป็นร้อยคน ทุกคนก็ต้องรอ รอเพื่อจะทำงาน แต่ถามว่าในฐานะนายจ้างเนี่ย ถามว่าเราทุกข์ใจมั้ย เราทุกข์ใจ ถามว่าเรามีรายรับมั้ย เราก็ไม่มีถูกมั้ยคะ เพราะว่าเราไม่ได้ทำงาน งานเราไม่เกิดอะมันก็ไม่สามารถมีรายรับได้ แต่ถามว่าเราทุกคนทำยังไงเราก็ต้องลดตัวเองลงมาค่ะ อยู่กับสิ่งที่ทำได้ มีกินมีใช้ประหยัดหน่อย เรียกง่าย ๆ ว่าถ้าคนมีเงินออม อาจจะเอาตัวรอดในช่วงเวลานี้ไปได้
ก็วางแผนการใช้ชีวิตกันใหม่ คนบ้านเรายังโชคดียังมีการช่วยเหลือจากตรงนั้นตรงนี้อยู่บ้าง แล้วก็คนในชุมชนส่วนมากก็จะช่วยกัน อย่างพวกอีฟเองเนี่ยตอนนี้งานก็ทำไม่ได้ กองละครเปิดไม่ได้ ในขณะที่ในครอบครัวทุกบ้านก็มีต้องกินต้องใช้มีพ่อมีแม่มีลูกเหมือนกันที่ต้องเลี้ยง คือมันก็เดือดร้อนกันไปทั่ว แต่พวกเราก็มีความเข้าใจเห็นอกเห็นใจกัน แล้วมันจะผ่านไป
บริษัทร้านอาหารอีฟก็ปิดนะคะทำไม่ได้ เพราะเราเสียค่าเช่าไม่ไหว เราก็เลือกที่จะมาทำดิลิเวอรี่เพื่ออะไร เพื่อเลี้ยงลูกน้องไม่อยากให้ลูกน้องตกงาน ก็พยายามเลี้ยงกันต่อไปเท่าที่ทำได้ อย่างบริษัทสามีก็มีปัญหาเพราะว่าที่ผ่านมา ตลอดช่วงระยะเวลาหลายเดือนเนี่ย เค้าก็พยายามต่อสู้โดยการที่ควักเงินตัวเองลงไปเพื่อให้ลูกน้องไม่ตกงาน ประคองกันมาจนไม่ไหวละ เพราะว่าบริษัทที่เป็นลูกค้าเนี่ยเค้าก็คงติดขัดเหมือนกัน แล้วก็เป็นบริษัทใหญ่ซึ่งก็ไม่ต่างกัน ทำให้สภาพคล่องของบริษัทเนี่ยมันเดินลำบากพอมันเดินลำบากมาก
เพราะฉะนั้นเนี่ยอีฟขอเป็นกำลังใจนะคะ ให้กับไม่ว่าจะนายจ้างหรือลูกจ้างทุกคน คนที่ตกงาน คนที่แย่ อีฟไม่พูดหรอกว่ามันดีมันพูดไม่ได้ มันแย่จริง ๆ แต่อีฟก็เชื่อว่าเรายังอยู่ในประเทศที่มีแดด เรายังอยู่ในประเทศที่มีน้ำ ยังมีฝน ยังดีกว่าพวกที่เค้าเจอหิมะเจอดินถล่ม เจออะไรก็ไม่รู้ นอกจากมีเรื่องโรคภัยก็ยังมีเรื่องเหล่านั้นที่อีฟคิดว่ามันยิ่งแย่ แรงบันดาลใจของอีฟหรือแรงผลักดันของอีฟก็คือมีแค่ว่ามองคนที่เค้าแย่กว่า แล้วเราก็ต้องสู้ สู้ขึ้นไปเพื่อให้คนรอบตัวเราไม่ต้องเจอภาวะแย่ ๆ แบบนั้นนะคะ รวมถึงลูกน้องที่อยู่ด้วยกันเนี่ย ทุกวันนี้ที่ประคองกันอยู่เนี่ย อีฟก็ขอบคุณเค้าที่รักเรารักองค์กรช่วยเหลือกันมานะคะ เราก็ต่างคนต่างภาวนาให้ช่วงเวลาแบบนี้ผ่านไปเร็ว ๆ